จังหวัดกระบี่ จับกุมดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวแล้ว 59 ราย ท้องที่สภ.อ่าวนาง จับกุมากที่สุด 23 ราย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น และวันทำงาน ขณะที่ศาลตัดสินไปแล้วกว่า 30 คดี ลงโทษจำคุก 15 วัน ปรับ3-5พันบาท จำคุกรอลงอาญา 6 เดือน และ1ปี เผยหลังมีการเพิ่มโทษ ทำให้มีผู้กระทำผิดลดลง
วันที่ 10 เมษายน 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ นำตัวผู้ต้องหาที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน ในช่วงประกาศเคอร์ฟิว เวลา 22.00-04.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งฟ้องศาลจังหวัดกระบี่ อีก 2 ราย หลังจับกุมดำเนินคดี เมื่อคืนที่ผ่านมาในข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548(ฉบับ2) นำตัวส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในส่วนของจังหวัดกระบี่ โดยภาพรวมทั้งจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 4-8 เม.ย.63 มีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดี ในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ แล้วจำนวน 59 ราย ซึ่ง ศาลตัดสินคดีไป กว่า 30 คดี มีการลงโทษจำคุก 15 วัน ปรับตั้งแต่ 3,000 5,000บาท จำคุกรอลงอาญา 6 เดือน และรอลงอาญา 1 ปี
สำหรับพื้นที่ที่มีการจับกุมดำเนินคดีมากที่สุด คือ พื้นที่ สภ.อ่าวนาง จำนวน 23 ราย ( มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย) รองลงมาคือ สภ.เมืองกระบี่ 18 ราย สภ. อ่าวลึก 14 ราย สภ.เกาะลันตา 11 ราย สภ.เหนือคลอง 1 ราย ส่วนใหญ่ เป็นวัยรุ่น และวัยทำงาน อ้างว่า ไม่รู้ มีเหตุจำเป็น ส่วนท้องที่อำเภอรอบนอกไม่พบผู้กระทำผิด
พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก. สภ.เมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ในส่วนของสภ.เมืองกระบี ช่วงแรกๆ มีผู้กระทำผิดหลายราย แต่ภายหลังจากที่มีการเพิ่มความเข้มงวด และมีโทษสูงขึ้น ก็ทำให้มีผู้กระทำผิดลดน้อยลงโดยอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้กระทำผิด 2 ราย และวันนี้ ส่งฟ้องศาลไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ ถึงมาตรการที่ขเข้มข้น การป้อองกันการแพร่ระบาดขแงเชื้อโควิด19ต่อไป
