กระบี่-คณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ยกให้ระบบบำบัดน้ำเสีย เกาะพีพี เป็นต้นแบบในการบำบัดน้ำเสียของแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศไทย
วันที่ 18 ก.ค.63 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของจังหวัดกระบี่และแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่เกาะพีพีว่า การแก้ไขปัญหาน้ำเสียในแหล่งท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่ เช่น ชายหาดอ่าวนาง เกาะพีพี ซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญ เพราะแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับจังหวัดกระบี่และประเทศไทยหลายล้านบาทและเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้วก็มีการบอกต่อให้กับเพื่อนหรือนำไปเผยแพร่ทางสื่อต่างๆอีกด้วย การที่จะให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจำนวนมากเป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยวในฐานะเจ้าบ้านต้องมีการบริหารจัดการที่ดีด้วย
ไม่ว่าในเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย จังหวัดกระบี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลกคือเกาะพีพี ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก นิยมเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวทำให้ปัญหาในเรื่องของขยะและน้ำเสียเป็นปัญหาที่ต้องดูแลแก้ไขโดยเฉพาะระบบบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะทิ้งลงสู่ทะเลเนื่องจากเกาะพีพีเป็นพื้นที่เกาะที่ตั้งอยู่กลางทะเลจะต้องมีความสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ดี มีหน่วยงานภาครัฐเป็นกำกับดูแลเป็นต้นแบบที่แรก ที่มีระบบบำบัดน้ำเสียอยู่บนเกาะ
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง กล่าวว่าขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนางมีความกังวลในเรื่องของบประมาณที่จะตกไป จากการประชุมเท่าที่คณะกรรมาธิการได้ชี้แจงในที่ประชุมในเรื่องของการใช้งบประมาณบ่อบำบัดน้ำเสียมูลค่ากว่า 500 ล้านบาทขององค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง ก็ได้ทราบว่า ได้มีการอนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ขั้นตอนอยู่ที่การตั้งคณะกรรมาธิการขององค์การจัดการน้ำเสีย หรือที่เรียกว่าบอร์ด คาดว่าเมื่อได้รับงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะเร่งดำเนินการเพื่อพัฒนาเกาะพีพีให้เป็นเกาะที่มีความสวยงาม สะอาดตา มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รอรับนักท่องเที่ยวต่อไป
