กระบี่-ไอเดียเจ๋ง!! โครงการลดอุบัติเหตุ จังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะทางโค้งอันตรายเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ทุ่มงบ 29,313,600.-ล้านบาท จำนวน 3 เส้นทางโค้งจุดเสี่ยงสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ติดตั้งราวลูกกลิ้ง (ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์)การ์ดเรลป้องกันภัยสาธารณะริมถนน ป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง เน้นบริเวณจุดเสี่ยง โค้งอันตราย พัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นการท่องเที่ยวสีเขียว (Green Tourism) และเพิ่มศักยภาพให้ได้มาตรฐานในระดับสากลและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและนานาชาติ สร้างฮือฮาและแปลกตาแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่สัญจรผ่านถนนเส้นดังกล่าว
วันที่ 23 ส.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนสายอ่าวนาง-คลองม่วง เส้นทางลัดไปยัง พื้นที่หาดคลองม่วง หาดทับแขก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง มีการติดตั้งราวลูกกลิ้ง(ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์)การ์ดเรลป้องกันภัยสาธารณะริมถนน ตรงทางโค้งอันตราย ป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นทางโค้งตัว S ระยะทางกว่า 100 เมตร ทั้งสองฝั่งริมถนน ซึ่งมองเห็นเด่นชัดแม้อยู่ระยะไกล โดยมีการติดป้าย พร้อมระบุโครงการว่า
“งานก่อสร้าง โครงการพัฒนาเส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล กิจกรรมปรับปรุงถนนป้องกันอุบัติเหตุสายการท่องเที่ยวอ่าวนาง-คลองม่วง (บ้านนาตีน-บ้านคลองสน) ตำบลอ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ปีงบประมาณ 2563 งบประมาณ 9,550,000.00 บาท แหล่งงบประมาณรายจ่ายโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของจังหวัดกระบี่ ระยะเวลาประกันความชำรุดบกพร่อง 2 ปี เริ่ม 6 สิงหาคม 2563 สิ้นสุด 7 สิงหาคม 2565 งานก่อสร้างรายนี้ด้วยเงินภาษีของท่าน”
ทั้งนี้ราวลูกกลิ้ง(ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์)การ์ดเรลป้องกันภัยสาธารณะ จะแปลกตากว่าการ์ดเรลกันชนทั่วไปที่เป็นแผ่นเหล็กยาวอย่างเดียว แต่จะนำลูกกลิ้งที่ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์นิ่มมีความยืดหยุ่น สีเหลือง น้ำหนักเบา มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 300 มิลลิเมตร ความสูงต่อชุดไม่น้อยกว่า 400 เมตร พร้อมแถบสะท้อนแสง ทำให้เมื่อยามค่ำคืนหากไฟส่องโดน ก็จะมีสีเด่นชัดมองเห็นชัดเจนแม้อยู่ในระยะไกล มีเสาเหล็กอยู่ตรงกลาง ซึ่งราวลูกกลิ้ง(ผลิตจากยางพาราสังเคราะห์)การ์ดเรลดังกล่าวจะหมุนได้อย่างอิสระ เมื่อเกิดการชนของรถ จะนำรถกลับสู่ถนนได้อย่างปลอดภัย ลดแรงกระแทกรุนแรงและลดการพลิกคว่ำ ทำให้ลดความเสียหายจากแรงชน ลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ความพิเศษ ของวัสดุ 3 ส่วนผสมในการผลิต ประกอบด้วย 1.วัสดุเพอร์มิเมอร์ 2.ยางพาราผสมในวัสดุ 3.วัสดุคอมโพสิต ซึ่งผ่านการทดลองการชนด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ต่ำกว่า 1100กก.ที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100กม./ชม. ที่มุมปะทะ 20-25 องศา โดยมีค่าทดสอบไม่เกินกว่า 33 กม.ต่อชั่วโมง และค่า PHD ไม่เกินกว่า 20g. นอกจากนี้ทอสอบการชนโดยใช้รถบบรทุกขนาดไม่ต่ำกว่า 10,000กก.ที่ความเร็วไม่ต่ำกว่า 80กม./ชม.ที่มุมปะทะ 15 องศา
สอบถามทราบว่าโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลจังหวัดกระบี่ เส้นทางสายหลักประกอบด้วย 3 เส้นทาง
1.ปรับปรุงถนนป้องกันอุบัติเหตุสายการท่องเที่ยวอ่าวนาง-คลองม่วง (บ้านนาตีน-บ้านคลองสน)
งบประมาณ 9,813,600.-บาท
2.ก่อสร้างถนน คสล.สายท่าเรือคลองเตาะ-มัสยิดคลองเตาะ ม.1 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่
งบประมาณ 9,800,000.-บาท
3.ก่อสร้างถนน คสล.สายสามแยกเกาะศรีบอยา-บ้านคลองเตาะ ม.6, ม.1 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ งบประมาณ 9,700,000.-บาท วงเงินรวม 29,313,600.- บาท
ทั้งนี้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้กำหนดกรอบการพัฒนาระยะยาวเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” นำไปสู่การพัฒนาให้คนไทยมีความสุขและตอบสนองต่อการบรรลุซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติ ในการที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ระดับสูง เป็นประเทศพัฒนาแล้วและสร้างความสุขของคนไทย สังคมมีความมั่นคง เสมอภาค และเป็นธรรม ประเทศสามารถแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจ และได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 9 ยุทธศาสตร์ ซึ่งในยุทธศาสตร์ที่ 7 ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์แนวทาง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง พัฒนาขนส่งทางราง ขนส่งสาธารณะ โครงข่ายถนน ขนส่งทางอากาศ และขนส่งทางน้ำ
แผนพัฒนาภาคใต้ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นมาตรฐานสากลเพื่อรักษาความมีชื่อเสียงของแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก พร้อมกับพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตและแปรรูปภาคเกษตรควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งพัฒนาการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน กับภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก และได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 4 ยุทธศาสตร์ และยุทธศาสตร์ที่ 1 ได้กำหนดให้ “พัฒนาการท่องเที่ยวของภาคให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลก” และมีแนวทางการพัฒนาข้อที่ 5. ยังได้ให้ความสำคัญถึงการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวให้มีความหลากหลายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการท่องเที่ยวที่สำคัญของภาค
ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดกระบี่ กำหนดวิสัยทัศน์ด้านการท่องเที่ยว “เมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับนานาชาติ” ประเด็นยุทธศาสตร์ “พัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นการท่องเที่ยวสีเขียว (GreenTourism)และเพิ่มศักยภาพให้ได้มาตรฐานในระดับสากลและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและนานาชาติ” โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน
โดยศักยภาพการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ในปี พ.ศ.2560จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน จำนวน 6,057,377 คน เป็นชาวไทยจำนวน 2,266,942 คน ชาวต่างประเทศ จำนวน 3,790,435 คน โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ร้อยละ 4.36 ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยว จำนวน 96,972.72 ล้านบาท เป็นชาวไทยจำนวน 34,824.75 ล้านบาท และชาวต่างประเทศ จำนวน 62,292.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 9.60 โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 5 อันดับแรก ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย China Malasia United Kingdom Geramanyและ France สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มีทิศทางเติบโตที่ดีมาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะจังหวัดกระบี่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีน้ำทะเลและหาดทรายที่สะอาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อันเป็นมนต์เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจและดึงดูดในใจให้แก่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริม เช่น การเปิดบริการสายการบินต้นทุนต่ำ จึงทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่เพิ่มขึ้นทุกปี
