กระบี่-วงจรปิด จับภาพชัด โจรแสบ สวมหน้ากากอนามัยปีนกำแพงบ้าน เจ้าของโรงแรมหรูเกาะพีพี จ.กระบี่ ได้กระเป๋าแบรนด์เนม มือถือ และทรัพย์สินเงินสด มูลค่าเกือบแสนบาท เผยคนร้ายลงมืออย่างใจเย็น นานกว่า 1 ชม.แถมยังใส่ถุงเท้าเจ้าของบ้านไปด้วย เผยเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 วอนเร่งติดตามคนร้าย
วันที่ 4 ก.ย.63 คลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของคนร้ายจากมุมต่างๆ เป็นชายกลางคนรูปร่างท้วม ผิวขาว สวมกางเกงขาสั้นสีแดง สวมเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำเงิน มีหมวกคลุมศีรษะ และสมหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า เดินมาตามริมถนนข้างบ้านจากนั้นคนร้ายได้ปีนกำแพงบ้านขึ้นไปนั่งอยู่แล้วใช้มือหมุนกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะเดินไปบนกำแพงแล้วลงไปข้างๆออฟฟิศ ที่สร้างไว้ภายในบริเวณบ้าน จากนั้นคนร้ายก็เดินไปในบริเวณบ้านเพื่อหาทางเข้าไปในบ้าน แต่ประตูและหน้าต่างปิดแน่นหนา ไม่สามารถเข้าได้ ซึ่งในระหว่างที่คนร้ายเดินอยู่รอบๆ บ้านคนร้ายก็ได้ไปหยิบเอาถุงเท้าฟุตบอลของเจ้าของบ้านมาใส่ และหยิบกระเป๋าแบบถุงหิ้วมาสะพายไว้ เดินไปมา โดยใช้เวลาเดินไปมานานกว่า 1 ช.ม. ก่อนที่จะเดินมาไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่แล้วรื้อค้นจนพบกุญแจรถยนต์ จากนั้นคนร้ายได้กดรีโมทและมีไฟของรถกระพริบ จึงเดินไปเปิดประตูรถยนต์กระบะ สี่ประตู ยี่ห้อโตโยต้า แล้วเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในก่อนที่จะหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.15 น. จนถึงเวลา 01.45 น. วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 95/3 ถ.กระบี่ ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่
นายคณากร ให้การว่า คนร้ายเข้ามาประมาณเที่ยงคืนเศษๆ ซึ่งตอนนั้นมีฝนตกลงมาและมีฟ้าร้องต่อเนื่อง แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเข้ามาอยู่ในบ้านนานมาก โดยก่อนไปคนร้ายได้ไปที่รถจักรยานยนต์และได้เงินสดประมาณ 800 บาท ซึ่งมีกุญแจรถยนต์ของตนอยู่ด้วย แล้วคนร้ายได้กดรีโมท จนมีแสงไฟขึ้น ก่อนจะเดินไปที่รถเปิดประตู เอากระเป๋าใส่เอกสาร 2 ใบ เป็นกระเป๋าแพบรนด์เนม 1 ใบ มูลค่ากว่า 3 หมื่น กระเป๋าหลุยส์ 1 ใบ มูลค่า 4 หมื่นบาท เงินสด ประมาณ 5 พันบาท บัตรเครดิตและเอทีเอ็ม 20 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากอีก 12 เล่ม และเอกสารประจำตัวของตน และคนร้ายยังได้เข้าไปในออฟฟิศโรงแรมเอาโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่องด้วย
นายคณากร กล่าวอีกว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนร้ายเข้ามาในบ้านของตน โดยเมื่อประมาณ 15 วันก่อน ได้เข้ามาขโมยเงินในออฟฟิศ และโทรศัพท์ไปแล้วรอบหนึ่งได้โทรศัพท์ไป 2 เครื่อง แต่ครั้งนั้นกล้องวงจรปิดเสีย และมาครั้งนี้ ซึ่งพฤติกรรมคนร้ายนั้นน่ากลัวมาก ไม่ได้เกรงกลัวว่าคนในบ้านจะออกมาพบหรือสนใจว่ากล้องจะจับภาพไว้ได้เลย ลงมืออย่างใจเย็น เบื้องต้นได้แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
