กระบี่-เผยคลิปใต้ท้องทะเล อุทยานหมู่เกาะพีพีพบฝูงปลาเชิงพาณิชย์ 4 สายพันธุ์นับแสนตัวหากินเกาะบิด๊ะนอกหลังสำรวจใต้ทะเทรอบที่ 3 สาเหตุเพราะความสมบูรณ์
วันที่ 20 กันยายน 2563 นี่คือภาพใต้ท้องทะเลขณะนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ นำกำลังชุดนักดำน้ำของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี และนักดำน้ำฝ่ายศึกษาวิจัยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกแผนปฏิบัติการดูแลป้องกันรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรใต้ท้องทะเล เป็นรอบที่ 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวปะการัง และสัตว์น้ำที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ บริเวณโดยรอบเกาะบิด๊ะนอก เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ปรากฏว่าสภาพพื้นที่ใต้ท้องทะเลที่ระดับน้ำลึก10 – 20 เมตร ยังมีแนวปะการังและทรัพยากรสัตว์น้ำที่หากยากและใกล้จะสูญพันธุ์อยู่เป็นจำนวนมาก และเพิ่มปริมาณอย่างต่อเนื่องเพราะยังมีความอุดมสมบูรณ์ไม่มีการถูกทำลายแต่อย่างใด
แต่นักดำน้ำต้องตกตะลึงและแปลกใจที่ปรากฏการณ์ในวันนี้ ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหลายสิบๆปีที่ผ่านมา เมื่อพบกับฝูงปลาเชิงการพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการประมงต้องการ ได้เข้ามาอาศัยและหากินอาหารอย่างสบายใจและอิ่มท้องนับแสนตัว โดยไม่ได้เกรงกลับนักดำน้ำแต่อย่างใด ประกอบด้วยปลากะพงข้างเหลือง ปลากะพงเหลืองตาโต ปลาสากบั่ง และปลาสากหางดำ ส่วนสาเหตุที่ฝูงปลานับแสนตัวเข้ามาหากิน เพราะบริเวณดังกล่าวไม่มีการถูกรบกวนและถูกทำลายจากการท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลากว่า 7 เดือน
โดยนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่าการออกแผนปฏิบัติการดูแลป้องกันรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรใต้ท้องทะเล เป็นมาตรการป้องกันป้องปรามการลักลอบจับทรัพยากรสัตว์น้ำ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ซึ่งปัจจุบันยังมีชาวประมงที่ตั้งใจพยายามที่จะลับลอบเข้าจับสัตว์น้ำ เพราะในเขตดังกล่าวมีทรัพยากรสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ทั้งสัตว์น้ำที่ใกล้จะสุญพันธุ์และหายาก รวมถึงสัตว์น้ำในเชิงการทำประมงพาณิชย์ ซึ่งจากการออกตรวจและสำรวจรอบบริเวณเกาะบิด๊ะนอก ไม่พบมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการประมง ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลในเขตอุทยานมีการฟื้นตัวเป็นไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะสัตว์น้ำที่ไม่เคยเข้ามาอาศัยและหากินเริ่มทยอยกันเข้ามาหลายสายพันธุ์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีการดูแลรักษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากบุคคลใดเข้ามาทำการประมงจะมีความผิดถูกดำเนินคดีและยึดเรือพร้อมอุปกรณ์ที่กระทำความผิดด้วย
