กระบี่-แม่คาใจ ผลสอบครู ริบโทรศัพท์ลูกสาววัย 13 ปี เปิดแชทลับประจานจนลูกผูกคอหวิดเสียชีวิต อ้างเพราะใช้โทรศัพท์ไม่เป็น ขณะที่ตร.เรียกสอบพยานเพิ่ม
จากกรณี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เด็ก นร.ชั้น ม.1 โรงเรียนใน ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ ใช้เชือกผูกคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายภายในห้องที่บ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.เขาคราม แต่โชคดีที่พี่ชาย และแม่ ไปเห็นและช่วยเหลือไว้ได้อย่างหวุดหวิด สอบถามจนทราบสาเหตุเพราะมีความอับอายหลังถูกครูประจำชั้นที่โรงเรียน ยึดโทรศัพท์มือถือ แล้วนำไปเปิดอ่านแชทส่วนตัว และยังให้เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนได้อ่านด้วย ทำให้ ด.ญ.เอ เกิดความอับอายจนตัดสินใจก่อเหตุขึ้น หลังทราบเรื่องทางนางบี (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แม่ของเด็กออกมาขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องนี้ และดำเนินการกับครูคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด ต่อมาทาง นักจิตวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ นักวิชาการสาธารณสุขประจำ รพ.สต.บ้านทุ่ง พร้อมด้วย จนท.รพ.สต.เข้าเยี่ยมครอบครัวของ ด.ญ.เอ เพื่อประเมินสภาพจิตใจในเบื้องต้น และให้กำลังใจ ขณะที่ ผอ.โรงเรียนดังกล่าวได้เข้าพบพ่อแม่ของเด็ก และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับครูที่ก่อเหตุ ก็ได้ไปที่บ้านขอโทษพร้อมมอบเงิน 500 บาท แต่ทางพ่อแม่ไม่รับขอโทษ
และล่าสุด นายสายัณห์ ไกรนรา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากระบี่ ได้มอบหมายให้นายอดิศร แก้วเซ่ง รองผู้อำนวยการฯลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และให้ครูคนดังกล่าว ย้ายออกจากโรงเรียนชั่วคราว ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในเบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุที่คุณครูประจำชั้นคนดังกล่าวได้ยึดโทรศัพท์มือถือของเด็กไปนั้น เนื่องจากกฎระเบียบของโรงเรียนได้ห้ามเด็กนักเรียนนำโทรศัพท์เข้าในช่วงการเรียนการสอน แต่ข่าวที่ออกไปบอกว่าครูได้เอาโทรศัพท์ไปดูแชท จนทำให้เด็กเครียด ถึงขั้นกลับไปผูกคอที่บ้านนั้น จริงๆ แล้วคุณครูไม่ได้มีเจตนาเปิดแชทลับของเด็ก แต่เกิดจากการใช้โทรศัพท์ไม่เป็นแล้วก็ไปกดพลาด ทำให้เด็กเข้าใจผิดว่าคุณครูได้ไปเปิดแชทลับของนักเรียน ส่วนกรณีที่เด็กบอกว่ามีเพื่อนๆ ดูด้วยนั้น จากการสอบถามผู้อำนวยการโรงเรียน ทราบว่าเด็กนักเรียนที่เปิดดูนั้นเป็นนักกีฬารักบี้ เปิดดูภาพปกติ ในแอพติ๊กต็อก แต่เด็กผู้เสียหายอาจจะเข้าใจผิด จึงทำให้เกิดความเครียดดังกล่าว และหลังจากที่ทราบผลสอบเบื้องต้น ทาง แม่และญาติๆ ของเด็กหญิง วัย 13 ปี ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับเดินทาง ไปที่ สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ แจ้งความดำเนินคดีกับครูที่ก่อเหตุริบโทรศัพท์มือถือ แล้วเปิดอ่านแชทลับ
วันที่ 28 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่และญาติ ของเด็กหญิงวัย 13 ปี ได้นำบุตรสาวเดินทางไปที่ ศูนย์ดำรงธรรมจ.กระบี่ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวหลังคาใจผลการสอบที่บอกว่าครูไม่ได้มีเจตนาเปิดแชทลับของเด็ก แต่เกิดจากการใช้โทรศัพท์ไม่เป็นแล้วก็ไปกดพลาด เชื่อว่าเป็นการเข้าข้างครูด้วยกันโดยมีนางสาวสายไหม จิตมัง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ รับเรื่อง
นางบี แม่ของเด็กหญิง วัย 13 ปี เปิดเผยว่า หลังทราบผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของ สนง.เขตพื้นที่การศึกษากระบี่รู้สึกขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เพราะไม่เชื่อว่า คนที่เป็นครู จะใช้โทรศัพท์มือถือไม่ชำนาญ มือพลาดไปเปิดแชท ของลูกสาว จึงต้องเดินทางมาร้องศูนย์ดำรงธรรม ช่วย
นางบี ยังได้กล่าวถึงคดี หลังจากแจ้งความแล้วว่า ทางพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยาน และในวันพร่งนี้ 28 ต.ค.ทางพนักงานสอบสวน นัดตนและพยานสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนลูกสาวมีสภาพจิตใจดีขึ้นตามลำดับ และพร้อมที่จะกลับไปเรียนตามปกติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: