กระบี่-พบโครงกระดูกหนุ่มใหญ่เสียชีวิตปริศนา กลางป่าใน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ พร้อมเสื้อผ้า รองเท้าและพระเครื่อง 7 องค์ สร้อยลูกปัด 1 เส้น และนาฬิกาอีก 1 เรือน คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 เดือน ล่าสุดภรรยาและลูก เดินทางมาดูศพ ยืนยันว่าเป็นศพสามีที่หายไป เมื่อช่วงพ.ค.ที่ผ่านมา ญาติเชื่อถูกฆาตกรรมแล้วนำศพมาทิ้ง
จากกรณีที่ตำรวจ สภ.ปลายพระยา จ.กระบี่ รับแจ้งจากชาวบ้าน ที่ออกหาของป่า ว่า พบโครงกระดูกศพชายปริศนา อยู่ภายในป่าตีนเขาในพื้นที่ บ้านทะเลหอย หมู่ 10 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา จนท.ตำรวจ แพทย์เวรเข้าชันสูตรชิ้นส่วนโครงกระดูกที่กองกระจัดกระจายไม่มีเศษชิ้นเนื้อติดอยู่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 เดือน ในที่เกิดเหตุพบทรัพย์สิน คาดว่าเป็นของผู้ตายประกอบด้วย เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตแขนยาวสีน้ำเงิน เสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ 1 คู่ สร้อยพระมีพระเครื่องห้อยอยู่ 7 องค์ สร้อยลูกปัด 1 เส้น นาฬิกาสปอร์ตแบบของผู้ชาย 1 เรือน แต่ไม่พบหลักฐานที่เป็นเอกสารยืนยันว่าเป็นใคร สภาพโครงกระดูกที่พบ อยู่กระจัดกระจายใกล้กับสิ่งของที่พบ คาดว่าอาจจะถูกสัตว์แทะกิน จึงได้เก็บโครงกระดูกไปพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่ กองพิสูจน์หลักฐาน 9 พร้อมประสานไปยังไปยัง สภ.ท้องที่ใกล้เคียงเพื่อ ติดต่อญาติผู้เสียชีวิต
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ 28 ต.ค.63 นางสุจิต แก้ววิหก อายุ 47 ปี พร้อมญาติๆ เดินทาง มาจาก จังหวัดนครศรรีธรรมราช มาตรวจสอบทรัพย์สิน ต่างๆ ของผู้ตาย ทั้งสร้อยคอ ลูกปัด พระเครื่อง รองเท้ากางเกง เสื้อผ้า จึง มั่นใจว่า เป็นศพของสามีของตนแน่นอน พร้อมทั้งร้องห่มร้องให้ออกมาด้วยความเสียใจ โดยนางสุจิต เล่าว่า ผู้ตายชื่อนายอรุณ สุทธิสังข์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/8 หมู่ 9 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้หายออกจากบ้านมาตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จนกระทั้ง ได้มีญาติแจ้งให้มาดูศพ ดังกล่าว ซึ่งเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตตนไม่ทราบ เพราะสามีไม่มีญาติ ในพื้นที่ อำเภอปลายพระยา เนื่องจากสามีไม่ค่อยอยู่บ้าน มักจะเดินทาง ไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง
ขณะที่น.ส.ทิพานัน สิทธิสังข์ อายุ 21 ปี ลูกสาวนางสุจิต กล่าวว่า ทรัพย์สินบางส่วนที่พบนั้นจำได้ว่าเหมือนกับของพ่อเธอ ตอนมีชีวิตอยุ่ พ่อได้หายตัวออกจากบ้านพักตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด 19 ระบาด ก่อนจะหายตัวไป พ่อจะติดต่อมาคุยกับตนตลอด จะบอกว่าพ่ออยู่ไหน ปลอดภัยดีหรือเปล่า แต่พอขาดการติดต่อไป ส่วนใหญ่เวลาพ่อไปไหนมาไหน ก็จะขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า ตลอด ตนจึงเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตนก็อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียด เพราะตนเชื่อว่าพ่อคงไม่มาประสบเหตุเสียชีวิตด้วยตัวเอง น่าจะมีบุคคลอื่นทำให้พ่อเสียชีวิต หรือถูกทำร้าย แล้วนำร่างมาทิ้งไว้เพื่ออำพรางคดี ส่วนสาเหตุความขัดแย้งของพ่อนั้น ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะปกติพ่อจะไม่ค่อยบอกปัญหา แต่เชื่อว่าพ่ออาจจะถูกฆ่า จึงอยากให้ตำรวจทำคดีนี้อย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อความชัดเจน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ต้องรอผลการชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อความชัดเจน และสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
