กระบี่-แม่วอนผู้ใจบุญช่วย ต่อลมหายใจลูกสาววัย 3 ปี เป็นครั้งสุดท้าย หลังป่วยด้วยโรคประหลาด สมองน้อยฝ่อ ทำให้พัฒนาการถดถอย ตระเวณรักษาร่วม 2 ปี ไม่หาย สุดท้ายเป็นผู้ป่วยติดเตียงระยะสุดท้าย เผยแพทย์บอกให้ทำใจ จะประคองชีวิตลูกไว้จนวินาทีสุดท้าย
วันที่ 3 ธ.ค.63 นางสาวกรรณิการ์ ขนานขาว อายุ 42 ปี เลขที่ 80/5 ม.2 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่แม่วัย 42 ปี ตระเวณพาลูกสาววัย 3.8 ปี รักษาจากอาการป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ กว่า 2 ปี รักษาไม่หาย ขณะที่ลูกสาวทุกข์ทรมาน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา ให้อาหารต้องป้อนผ่านท่อเท่านั้น แม่เองต้องดูแลลูกที่ป่วยไม่ได้ทำงาน เงินสะสมนับแสนบาทหมดไปกับการรักษาลูก ล่าสุดป่วยติดเตียง ระยะสุดท้าย แพทย์บอกให้ทำใจ ตัดสินใจจะประคองลมหายใจลูกไว้ จนวินาทีสุดท้าย ก่อนนำเรื่องราวโพสต์ขึ้นเฟสบุ๊คส่วนตัว หวังพึ่งโซเชียลฯช่วยเหลือ ขอต่อชีวิตลูกก่อนสิ้นลมหายใจ
โดยระบุข้อความว่า “วิงวอนขอความช่วยเหลื น้องกูเกิล ศุภิสรา บุญศิริน้องได้ ป่วยเป็นโรคสมองน้อยฝ่อตอนนี้ได้ย้ายมารักษาตัวที่ร.พกระบี่แล้วซึ่งระยะเวลา 2 ปีที่คนเป็นแม่ได้พยายามทำการรักษาดูแลน้องเรื่อยมาจนถึงวันนี้ ถึงตอนนี้ก็เป็นช่วงสุดท้ายของชีวิตน้องแล้ว ทางโรงพยาบาลอนุญาติให้น้องกลับบ้านได้ แต่ทางบ้านต้องมีห้องปลอดเชื้อให้น้อง ทางแม่หลังจากที่พาลูกรักษาตัวเรื่อยมา ก็ไม่มีรายได้เลยขอความช่วยเหลือจากผู้มีจิตเมตตาช่วยบริจาดคนละเล็กละน้อย เพื่อให้น้องได้กลับมาอยู่บ้านพร้อมครอบครัวอีกครั้ง ผ่านบัญชีแม่โดยตรง กรรณิการ์ ขนานขาว 529 2096 781กสิกรไทย ขอขอบคุณผู้มีจิตเมตตาต่อน้องขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้”
นางสาวกรรณิการ์ ขนานขาว เปิดเผยว่า ลูกสาวชื่อด.ญ.ศุภิสรา บุญศิริ วัย 3.8 ปี เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง จากโรคประหลาด สมองน้อยฝ่อทำให้พัฒนาการถดถอย ลงเรื่อยๆ จากเด็กที่เคยเดินได้ตอนนี้นอนติดเตียง ไม่สามารถรักษาให้หายได้ หลังส่งตัวเข้ารักษาเมื่อเดือนเมษายนปี 62 โดยเริ่มแรกสังเกตเห็นลูกสาวเดินแล้วล้มบ่อยครั้ง ผิดไปจากเด็กทั่วไป ตนจึงได้พาลูกสาวไปตรวจ ที่รพ.กระบี่ หมอทำการเอ็กซ์เรย์สมอง พบว่าสองส่วนหลังมีลักษณะผิดปกติแต่ก็ไม่ทราบสาเหตุ จึงได้ส่งไปตรวจที่รพ.วชิระภูเก็ต ผลปรากฎว่า เนื้อเยื่อสมองส่วนหลังที่ควบคุมดารเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่าสมองน้อย มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้พัฒนาการถดถอย ไม่สามารถรักษาได้ แพทย์จึงได้ ส่งไปที่สถาบันสุขภาพเด็ก กรุงเทพมหานคร ก็ทราบว่าลูกสาวป่วยเป็นโรคสมองน้อยฝ่อ ต่อมารักษาที่มอ.หาดใหญ่อีกครั้ง รักษาอยู่ 4 เดือน ซึ่งระหว่างนั้นแพทย์ได้ทำการเจาะคอเพื่อให้อาหารทางท่อ ก่อนรมยาผ่าตัด จนถึงวันนี้ก็ไม่สามารถนำท่อออกได้ และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ทางแพทย์ได้บอกให้ตนทำใจ เลือกระหว่างให้น้องไป หรือให้น้องอยู่ต่อ ด้วยความรักและสงสารลูกตนจึงตัดสินใจให้น้องมีชีวิตอยู่ต่อไป จนกว่าน้องจะสู้ไม่ไหว จะประคองชีวิตน้องไว้ จนนาทีสุดท้าย จึงขอส่งกลับมารักษาที่รพ.กระบี่ โดยล่าสุดแพทย์ให้พาน้องกลับรักษาต่อที่บ้านได้ แต่ต้องสร้างห้องปลอดเชื้อขึ้นโดยเฉพาะ แต่ติดตรงไม่มีเงินสร้าง จึงต้องรักษาตัวอยู่ที่รพ.กระบี่ต่อไป ส่วนเครื่องช่วยหายใจนั้น ทางมอ.หาดใหญ่อยู่ระหว่างจัดหาให้ ส่วนโรคนี้ แพทย์บอกว่าโรคดังกล่าวพบเพียงในล้านเท่านั้น ในประเทศไทยยังไม่มียารักษา
นางสาวกรรณิการ์ ขนานขาว เปิดเผยอีกว่า ตลอด 2 ปี ที่ตระเวณพาน้องรักษานั้น เงินสะสมที่มี ใช้จ่ายจนหมด งานก็ไม่ได้ทำ ส่วนรายได้ตอนนี้เป็นเงินที่ได้จากเงินเด็กพิการ 1000 บาท เงินเด็กแรกเกิด 600 บาท ใช้สิทธิบัตรคนจน 300 บาท ซึ่งตอนนี้ตัดสินใจจะพาน้องรักษาต่อที่บ้าน แต่ไม่มีเงินสร้างห้องปลอดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเป็นนมทางการแพทย์ ค่าอุปกรณ์ทำแผล ค่าแพมเพิส จึงนำเรื่องราวโพสต์ลงเฟ๊สบุ๊คขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้หากผู้ใจบุญมีความประสงค์ที่จะให้การช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ นส.กรรณิการ์ ขนานขาว เบอร์โทรติดต่อ 096 949 0584 หรือช่วยเหลือได้ที่ กรรณิการ์ ขนานขาว 529 2096 781 กสิกรไทย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: