กระบี่-อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ จับกุมแล้ว เรือสปีตโบท นำเที่ยว จาก จ.ภูเก็ต ทิ้งสมอ ทำลายแนวปะการังที่เกาะพีพี พร้อมยึดเรือ
จากรณี ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทางทะเล ได้โพสต์เฟสบุ๊ก เรือสปี๊ดโปทลำหนึ่ง ที่ทิ้งสมอในแนวปะการัง ระบุข้อความว่า ทีมงานอนุรักษ์ปะการังที่เกาะพีพีแจ้งข่าวมา มีเรือทิ้งสมอทำให้ปะการังที่ปลูกไว้เป็นสิบๆ ปีแตกหักเสียหาย เรือยังฝ่าทุ่นกั้นเขตห้ามเข้าที่หาดด้วยครับ การกระทำดังกล่าว น่าจะมีความผิดตามนี้ครับ ทำอันตรายต่อปะการังที่เป็นสัตว์คุ้มครอง มีบทลงโทษตามพรบ.สงวน/คุ้มครองสัตว์ ฝ่าฝืนระเบียบอุทยาน นำเรือเข้าไปในสถานที่ห้ามเข้า
ยังอาจมีข้ออื่นๆ อีก เช่น คน/เรือขออนุญาตถูกต้องหรือเปล่า เพิ่งโพสต์เรื่องการลงโทษที่เกาะพงัน หวังว่าคงตรวจสอบติดตามด้วยมาตรฐานเดียวกัน อันที่จริง ควรมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะที่นี่เป็นอุทยาน และมีภาพปะการังหักชัดเจน ทางอุทยานทราบแล้ว และคงรีบดำเนินการ พรุ่งนี้ผมเข้าพบท่านอธิบดีกรมอุทยาน จะรายงานท่านอีกครั้ง แต่เชื่อมือหัวหน้าพีพีคนใหม่ จะจัดการได้อย่างรวดเร็วและเรียบร้อย ดังที่ท่านรมต.ประกาศอยู่เสมอ เราจะไม่ยอมให้การท่องเที่ยวทำร้ายทะเลครับ
ล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ติดตาม เรือสปีตโบทลำดังกล่าว ได้แล้ว เป็นเรือนำเที่ยว จากจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ยึดเรือไว้ พร้อมจับกุมตัว นายพิชิตชัย ใจเหล็ก อายุ 43 ปี เป็นกัปตันเรือ ม.5 ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต และนายพีรพัฒน์ มีปลอด อายุ 45 ปี เป็นไกค์นำเที่ยว ประจำเรือ ม.7 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดกระบี่
แจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิด พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (2) กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือกระทำการอื่นใด อันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพย์พยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ มาตรา 20 ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ส่วนความเสียหาย เจ้าหน้าที่ เตรียดำน้ำตรวจสอบความเสียหายของแนวปะการัง ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภานีตำรวจภูธรเกาะพีพี อำเภอเมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ประจำแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ เข้มงวด ลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่ เพื่อป้องกัน การฝ่าฝืน พรบ.อุทยานแห่งชาติ ทั้งการลักลอบทำประมง การทิ้งสมอเรือในจุดห้ามจอดเรือ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: