กระบี่-ทีมสืบสวน ระดมทีมหาหลักฐาน คาดแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบลงมือก่อเหตุ ขณะญาติๆ เดินทางมารอรับศพ
ความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุแทง น.ส.กนกพร คุ้มเขต อายุ 36 ปี แม่บ้านของโรงแรมบลูโซเทล สมาร์ท ในหาดอ่าวนาง เสียชีวิตคาบ้านเช่า หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ โดยตัวแฟนหนุ่มของผู้ตาย หายตัวไปหลังเกิดเหตุ
ล่าสุดวันที่ 2 ม.ค.63 พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.ปพ.ภ.8 พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ เรียกชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธร ภาค 8 สรุปเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมกับสั่งการชุดสืบสวนทั้งหมด แยกชุดกันออกหาพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ น่าจะเป็นนายพงศ์ศักดิ์ หรือเก้า จันทร์ทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 4 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ แฟนหนุ่มของผู้ตาย ที่คบกันมา ได้ประมาณ 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ซึ่งทำงานแผนกซักรีดของโรงแรมแห่งเดียวกัน เพราะหลังเกิดเหตุหายตัวไป โดยชุดสืบสวนกระจายกันออกหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้ต้องสงสัย ทั้งภาพกล้องวงจรปิด และพยานที่เป็นเพื่อนของนายพงศ์ศักดิ์ ทั้งกล้องที่ใกล้บ้านเกิดเหตุ รวมถึงกล้องหน้าบ้านของผู้ต้องสงสัย
ข่าวน่าสนใจ:
- สองวัยรุ่นอดีตนักเรียนอาชีวะถูกคู่อริตามมาดักยิง ต้องบิดมอไซค์หนีตายฝ่าเข้าฝูงชน
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- ถนนคนเดิน Stone Street บ้านไร่แห่งใหม่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
จากการตรวจค้นห้องพักนายพงศ์ศักดิ์ พบเสื้อยืดคอปก แขนยาวสีเทา มีคราบเลือดติดอยู่ ในตระกร้าผ้าภายในห้องพัก พร้อมรองเท้าที่คาดว่าใช้ใส่ในวันเกิดเหตุ จึงยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้เมื่อดูภาพกล้องวงจรปิดภายในบ้านนายพงศ์ศักดิ์ พบว่าเจ้าตัวเดินทางกลับเข้าบ้านเมื่อเวลา 04.30 น. ของวันที่ 31 ธ.ค. โดยสวมเสื้อตัวเดียวกับที่ติดคราบเลือด ขี่รถ จยย.ของผู้ตายมาที่บ้าน ซึ่งนายพงศ์ศักดิ์ มีอาการกระวนกระวาย และพูดคุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา และคืนเดียวกัน โทรศัพท์ไปขอยืมเงินจากเพื่อนพนักงานโรงแรม 1,000 บาท คาดว่าใช้เป็นเงินเดินทางหลบหนี จากนั้นเวลาประมาณ 07.00 น. วันเดียวกันสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว แขนยาว สะพายกระเป๋าเป้ 1 ใบ ขี่รถ จยย.ของผู้ตายออกไปจากบ้าน คาดว่าขี่ไปจอดหน้าบ้านเกิดเหตุ แล้วนัดให้เพื่อนมารับ ก่อนพาไปส่งที่ปั้มน้ำมันในพื้นที่ ต.ไสไทย แล้วหลบหนีไป โดยภาพกล้องวงจรปิดดังกล่าว สอดคล้องกับกล้องใกล้บ้านเกิดเหตุ ตำรวจจึงนำคลิปดังกล่าวไปเรียบเรียงเพื่อสืบหาเส้นทางหลบหนี รวมถึงตามตัวเพื่อนผู้ก่อเหตุทุกคน มาสอบปากคำ นอกจากนี้ยังสันนิษฐานได้ว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. หลังเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะช่วงเวลาดังกล่าว ทางเจ้าของบ้านเช่า ยังสามารถโทรศัพท์พูดคุยกับผู้ตายเรื่องค่าเช่าบ้านอยู่ โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะลงมือช่วงกลางคืน ก่อนจะใช้กุญแจล็อคประตูไว้ แล้วขี่รถออกไป
นอกจากนี้ตำรวจเข้าตรวจสอบในบ้านเกิดเหตุอีกครั้ง พบมีดปอกผลไม้ ยาวประมาณ 20 ซม. ติดคราบเลือด ตกอยู่ในบ้าน 1 เล่ม คาดว่าเป็นอาวุธใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนมูลเหตุจูงใจ เบื้องต้นจากการสอบเพื่อนของผู้ตาย ทราบว่า ก่อนที่ผู้ตายจะมาคบหากับนายพงศ์ศักดิ์ ผู้ตายเคยมีแฟนหนุ่มอีกคน หลังเลิกกับสามีเก่า โดยแฟนหนุ่มคนดังกล่าวทำงานอยู่โรงแรมอีกแห่งในหาดอ่าวนาง และเลิกรากับผู้ตายไปได้ประมาณเกือบ 6 เดือน ก่อนจะมาคบหากับนายพงศ์ศักดิ์ ได้ประมาณ 2-3 เดือน และตัดสินใจมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ซึ่งก่อนจะถึงวันเกิดเหตุ เพื่อนผู้ตาย ได้รับการติดต่อจากผู้ตาย ว่าอดีตแฟนคนก่อนหน้า เดินทางมาพบที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว เพื่อพยายามจะขอคืนดี แต่นายพงศ์ศักดิ์ มาพบเข้าจึงอาจเป็นเหตุโกรธแค้นได้ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งสอบพยานทุกปาก เพื่อรวบรวมหลักฐาน ออกหมายจับในวันเดียวกัน
ด้านนายวสันต์ คุ้มเขต อายุ 31 ปี น้องชายผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาติดตามการสืบสวนของ จนท. กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ กทม.วันปีใหม่เดินทางกลับมาบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็มาทราบข่าวร้ายว่าพี่สาวถูกฆ่าตาย ส่วนใครจะเป็นคนก่อเหตุ หรือมาจากปัญหาอะไรตนเองก็ไม่ทราบ ซึ่งปกติพี่สาวจะเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา แต่นิสัยดีไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่ทราบมาก่อนว่าพี่สาวกำลังคบหากับนายพงศ์ศักดิ์
ส่วน น.ส.รักษิณา พัธนะกุล อายุ 18 ปี บุตรสาวของผู้ตาย กล่าวว่า โดยปกติแม่จะโทรศัพท์พูดคุยกับตนอยู่เป็นประจำทุกวัน ครั้งหลังสุดที่ได้คุยกับแม่คือประมาณวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยแม่สั่งให้ตนไปเก็บเงินดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ไว้ที่บ้าน จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นก็ติดต่อแม่ไม่ได้อีก ก่อนนี้แม่เคยคบกับผู้ชายอีกคน และเลิกกันไปได้ประมาณ 6 เดือน ก่อนจะมาคบกับแฟนคนใหม่ได้ไม่นาน อยากให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามคดีนี้ และเร่งจับกุมคนร้ายที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับแม่มาดำเนินคดีให้ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: