กระบี่-รอง ผบช.ภ.8 เชื่อจับคนก่อเหตุฆ่าแม่บ้านโรงแรมได้ใน 2-3 วัน จ่อออกหมายจับแฟนหนุ่มที่หลบหนี
จากคดีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีด แทง น.ส.กนกพร คุ้มเขต อายุ 36 ปี แม่บ้านของโรงแรมในหาดอ่าวนาง เสียชีวิตภายในบ้านเช่าที่ หมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ เมื่อคืนวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนศพจะมาถูกพบในคืนวันที่ 1 ม.ค. หลังผู้ตายหายตัวไม่ไปทำงาน จนเพื่อนสงสัยและตามมาดูที่บ้าน ก่อนพบเป็นศพ ถูกคนร้ายกระหน่ำแทงตามลำคอ หน้าท้อง รวม 11 แผล นอนตายในห้องนอน ขณะที่แฟนหนุ่มที่กำลังคบหากัน หายตัวไปหลังเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจคาดว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ เพราะตามไปค้นเจอเสื้อเปื้อนเลือดที่บ้านของแฟนหนุ่ม รวมทั้งติดตามภาพกล้องจากจุดใกล้บ้านเกิดเหตุ จากบ้านของแฟนหนุ่ม และติดตามตัวเพื่อนของแฟนหนุ่มมาสอบปากคำ พร้อมเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับนายพงศ์ศักดิ์ หรือเก้า จันทร์ทอง อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มที่กำลังหลบหนี ส่วนมูลเหตุจูงใจ น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง
ความคืบหน้าเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ม.ค.64 พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 เดินทางมาประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จ.กระบี่ โดยมี พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.ปพ.ภ.8 หัวหน้าทีมสืบสวน พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยองเข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกระบี่ จนท.ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ พนักงานสอบสวนในคดี เข้าประชุมสรุปข้อมูล โดยเบื้องต้นชุดคลี่คลายคดี ได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เพียงพอจะขออนุมัติออกหมายจับนายพงศ์ศักดิ์ อยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำเพื่อรวบรวมเอกสารยื่นขอหมายจับต่อศาล จ.กระบี่ ส่วนชุดที่ลงพื้นที่ติดตามภาพกล้องวงจรปิด ก็ได้ภาพที่เห็นคนก่อเหตุ เข้าออกที่บ้านเช่าเกิดเหตุ รวมทั้งภาพตอนเข้าออกบ้านของตัวเองในวันเดียวกัน รวมถึงหลักฐานสำคัญคือเสื้อที่เปื้อนเลือด ซึ่งกำลังตรวจ DNA ว่าเลือดบนเสื้อตรงกับเลือดผู้ตายหรือไม่ ส่วนการติดตามเส้นทางหลบหนี ตอนนี้กำลังเร่งนำตัวเพื่อนผู้ต้องสงสัย มาสอบทั้งหมด โดยพบว่ามีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิงอีกคน ที่ผู้ต้องสงสัยแอบคบหาอยู่ด้วย และน่าจะเป็นคนมารับผู้ต้องสงสัยไปส่งขึ้นรถหลบหนีไปต่างจังหวัด ตำรวจกำลังนำตัวมาสอบปากคำเช่นกัน รวมทั้งเร่งตามตัวอดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายอีกคน มาให้ข้อมูลเพื่อหาประเด็นเชื่อมโยงปมสังหาร ขณะที่ปมเหตุฆาตกรรม ยังมุ่งไปที่ปมชู้สาว ที่อาจจะเกิดการหึงหวง
พล.ต.ต.นันทเดช กล่าวหลังการประชุมว่า ตอนนี้ชุดสืบสวน ทำงานคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะได้ตัวคนก่อเหตุภายใน 2-3 วันนี้ ส่วนปมเหตุการฆาตกรรม ก็มาจากเรื่องหึงหวงกัน ซึ่งตอนนี้ให้พนักงานสอบสวน เร่งสอบปากคำพยานทุกปากอย่างละเอียด เพื่อคลี่คลายปมสังหาร และคาดว่าจะออกหมายจับได้ภายในวันนี้.
ด้านนายวสันต์ คุ้มเขต อายุ 31 ปี น้องชายผู้ตาย ซึ่งเดินทางมาติดตามการสืบสวนของ จนท. กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ กทม.วันปีใหม่เดินทางกลับมาบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ก็มาทราบข่าวร้ายว่าพี่สาวถูกฆ่าตาย ส่วนใครจะเป็นคนก่อเหตุ หรือมาจากปัญหาอะไรตนเองก็ไม่ทราบ ซึ่งปกติพี่สาวจะเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา แต่นิสัยดีไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่ทราบมาก่อนว่าพี่สาวกำลังคบหากับนายพงศ์ศักดิ์
ส่วน น.ส.รักษิณา พัธนะกุล อายุ 18 ปี บุตรสาวของผู้ตาย กล่าวว่า โดยปกติแม่จะโทรศัพท์พูดคุยกับตนอยู่เป็นประจำทุกวัน ครั้งหลังสุดที่ได้คุยกับแม่คือประมาณวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยแม่สั่งให้ตนไปเก็บเงินดอกเบี้ยที่ปล่อยกู้ไว้ที่บ้าน จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นก็ติดต่อแม่ไม่ได้อีก ก่อนนี้แม่เคยคบกับผู้ชายอีกคน และเลิกกันไปได้ประมาณ 6 เดือน ก่อนจะมาคบกับแฟนคนใหม่ได้ไม่นาน อยากให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามคดีนี้ และเร่งจับกุมคนร้ายที่ลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับแม่มาดำเนินคดีให้ได้
ขณะที่นางพรธนพรรณ์ ชดช้อย อายุ 60 ปี ป้าของนายพงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนนี้หลานชายเป็นคนขยันทำงาน แต่ไม่รู้มาก่อนว่าเคยมีแฟน เพิ่งมาทราบระยะหลังว่ากำลังคบหากับผู้ตายอยู่ ทราบล่าสุดหลานชายหายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. ก็อยากให้ติดต่อกลับมามอบตัว อย่าหลบหนี ให้มาว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมายจะดีกว่า.
