กระบี่-ล่าโจรขโมย จยย. ขี่ไปต่อหน้าเจ้าของ ก่อนทิ้งรถหนี ตร.ล้อมจับ แต่รอดไปได้
เหตุเจ้าของรถ จยย.ไล่ล่าโจรขโมย จยย.กลางเมืองกระบี่ รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 4 ก.พ.64 ตำรวจ 191 กระบี่ รับแจ้งจาก น.ส.เกศกนก มนทองหลาง อายุ 29 ปี เจ้าของร้านมามิ บาร์ ถนนมหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมืองกระบี่ ว่ามีคนร้ายก่อเหตุขโมย จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน 1 กฌ 5566 กระบี่ ไปจากหน้าร้าน โดยแฟนหนุ่มของ น.ส.เกศกนก กำลังขับรถไล่ติดตามคนร้ายไปทาง ถนนจุฑามาศ ต.ปากน้ำ หลังรับแจ้งจึงประสานตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ช่วยกันออกสกัดจับ และไล่ตามคนร้าย
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมาตำรวจรับแจ้งจากเจ้าของรถว่า คนร้ายขี่รถ จยย.คันดังกล่าวไปล้มอยู่ริมถนนจุฑามาศ ก่อนที่จะวิ่งหนีเข้าไปทางป่าข้างทาง ตำรวจจึงระดมกำลังร่วม 10 นาย เข้าไปปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นป่าและบ้านคน ก่อนกระจายกำลังกันออกค้นหา ค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชม.แต่ไม่พบตัวคนก่อเหตุ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นป่าโปร่งที่สามารถวิ่งหนีไปออกได้หลายเส้นทาง คาดว่าคนร้ายน่าจะวิ่งหนีหายไปจากจุดดังกล่าวแล้ว จึงประสานให้เจ้าของรถนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพนาทีคนร้ายเดินเข้ามาก่อเหตุมาตรวจสอบ พบภาพวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี สูงประมาณ 160 ซม.ไว้ผมหยักศก สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำไว้ข้างใน แล้วสวมเสื้อเชิ๊ตผ้ายีนส์แขนยาวทับ กางเกงขายาวสีดำ เดินมาที่รถซึ่งจอดอยู่ติดกับป้ายร้าน ก่อนจะขึ้นคร่อมและขี่รถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมี น.ส.เกศกนก พยายามวิ่งออกไปไล่จับแต่ไม่ทัน โดยเจ้าตัวจะนำคลิปดังกล่าวเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
น.ส.เกศกนก เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเกิดเหตุคนงานในร้านขี่รถกลับมาจากไปทำธุระข้างนอก มาจอดหน้าร้านและจะออกไปทำธุระต่อ จึงเสียบกุญแจไว้เดินเข้าร้านมาไม่ถึง 2 นาที คนร้ายก็เดินมาที่รถ ซึ่งตนนั่งอยู่หน้าร้าน ก็เข้าใจว่าเป็นลูกค้าจะมาที่ร้าน จึงทักทายไปปกติ แต่คนร้ายกลับขึ้นคร่อมรถติดเครื่อง และขี่หนีออกไปอย่างรวดเร็ว ตนพยายามวิ่งตามออกไปแต่ไม่ทัน แฟนหนุ่มของตนจึงรีบวิ่งออกไปขับรถเก๋งไล่ตาม จนมาตามทันตรงจุดเกิดเหตุ โดยแฟนขับรถเบียดจนรถที่คนร้ายขโมยมาล้มลง ก่อนจะวิ่งหนีเข้าป่าไป ซึ่งตนจะเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะคนร้ายก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวอะไรเลย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: