กระบี่-ป่าไม้ 12 บุกตรวจนายทุนไถที่ป่าเฉลิมพระเกียรติฯ กว่า 10 ไร่ พบออกโฉนดในเขตป่าสงวน ทำเลทองมูลค่าร้อยล้าน
วันที่ 3 เม.ย.64 นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ นายประยูร พงศ์พันธ์ หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นายวศิน สิริเกียรติกุล เลขานุการ กมธ.ป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย นายจเร และเล็ม ผญบ.หมู่ 6 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ พร้อม จนท.ป่าไม้ อุทยานฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณริมถนนแหลมโพธิ์ หมู่ 6 บ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย เมื่อเที่ยง วันที่ 2 เม.ย.หลังมีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนว่ามีการนำรถแบคโฮ เข้าไปปรับไถพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเดิมชาวบ้านแจ้งว่าเป็นพื้นที่ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ แต่ผู้ที่นำรถแบคโฮเข้าไปปรับพื้นที่ อ้างว่าที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง
เบื้องต้น พบสภาพพื้นที่ถูกรถแบคโฮปรับไถจนราบเตียนโดยมีรถแบคโฮจอดอยู่ 1 คัน สภาพพื้นที่เพิ่งถูกไถได้เพียงไม่กี่วัน กินเนื้อที่กว่า 10 ไร่เศษ จนท.อุทยานฯ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นพื้นที่อยู่นอกเขตอุทยานฯ จนท.ป่าไม้ จึงทำการตรวจพิกัดด้วยจีพีเอส พบว่าเดิมพื้นที่ดังกล่าวติดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองจิหลาด ด้านข้างที่ดินแปลงดังกล่าว ทางกรมประมง เคยยื่นของใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จ.กระบี่ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นจากนายจเร ผญบ.ทราบว่า ที่ดินดังกล่าว ตนเพิ่งมาเป็น ผญบ.ในพื้นที่นี้เมื่อปี 2547 เดิมเท่าที่ทราบเคยเป็นพื้นที่ปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อหลายสิบปีก่อน โดยไม้ที่ปลูกในป่าส่วนใหญ่เป็นไม้จำพวก ไม้เสม็ดขาว ไม้ยูคาลิปตัส และไม้กระถินณรงค์ กระทั่งมีคนมาปรับไถพื้นที่ดังกล่าว ตนสอบถามไปยังคนที่อ้างเป็นเจ้าของพื้นที่ บอกว่ามีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนด เนื้อที่กว่า 7 ไร่
ด้าน นายบุญลาภ กล่าวว่า จากการตรวจสอบของป่าไม้ในเบื้องต้น พบว่าป่าแห่งนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองจิหลาด และเคยเป็นพื้นที่ป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อประมาณ 20 ปีเศษ ซึ่งตนให้ จนท.ทำการเก็บค่าพิกัดต่าง ๆ นำไปประกอบเอกสารการตรวจสอบ เพื่อนำไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อน หลังจากนี้จะทำเรื่องเสนอไปยังจังหวัด และกรมป่าไม้ และเชิญให้ผู้ที่แสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ นำเอกสารสิทธิ์มาแสดงต่อ จนท.เพื่อขอให้ตรวจสอบอีกครั้ง ว่าที่มาของเอกสารสิทธิ์ ออกถูกต้องหรือไม่ และออกมาเมื่อไหร่อย่าไร
ถูกต้องหรือไม่
ขณะที่นายวศิน กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานให้ทางพื้นที่ตรวจสอบว่ามีการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ก็จะประสานให้ผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ข้อมูลกับทางคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนเส้นทางไปยังสุสานหอย 75 ล้านปี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.กระบี่ และมีพื้นที่อยู่ใกล้แนวชายหาดอ่าวน้ำเมา ซึ่งเป็นจุดพักผ่อนที่กำลังเริ่มได้รับความนิยมจาก นทท. มีนักธุรกิจเข้าไปซื้อที่ดินในพื้นที่แห่งนี้เพื่อสร้างเป็นโรงแรมรีสอร์ตหรูหลายแห่ง โดยมูลค่าซื้อขายที่ดินบริเวณนี้จะมีราคาซื้อขายกันไม่ต่ำกว่าไร่ละ 10 ล้านบาท ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวหากมีการปรับไถเสร็จแล้วมีการซื้อขายจะมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านบาท.
