กระบี่-สยอง! เฒ่าเรร่อน ใช้คัตเตอร์เชือดคอตัวเองคาห้องผู้ป่วย รพ.กระบี่ คาดน้อยใจไร้ญาติเหลียวแล
วันที่ 5 ส.ค.64 ศพชายเร่ร่อนยังคงเก็บไว้ที่รพ.กระบี่ หลังมีเหตุสยองชายวัย 50 ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์เชือดคอตัวเองคาห้องรักษาผู้ป่วยที่ รพ.กระบี่ รายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ช่วงเกิดเหตุ พ.ต.ท.ชาติชาย นาคปักษี สว.สอบสวน สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนป่วยใช้มีดเชือดคอตัวเองตาย ภายในห้องพักผู้ป่วยรวม ตึกสูตินรีเวชกรรม รพ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ แล้วพร้อมด้วยแพทย์เวร เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่ห้องเกิดเหตุ เป็นห้องพักผู้ป่วยแบบห้องผู้ป่วยรวม บริเวณเตียงใกล้กับเค้าท์เตอร์พยาบาล พบ จนท.แพทย์ และพยาบาล กำลังพยายามช่วยกันยื้อชีวิตผู้ป่วยชาย ทราบชื่อต่อมาคือนายอาตมา เอกกุศโลบาย อายุประมาณ 50 ปี แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เนื่องจากคนป่วยเสียเลือดมาก จนท.ตรวจที่ศพ พบบาดแผลฉกรรจ์บริเวณลำคอฝั่งขวา 1 แผลใหญ่ บนตู้วางของใกล้กับเตียงผู้ป่วย พบมีดคัตเตอร์สีส้มเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม คาดว่าเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถาม จนท.ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุ ขณะที่ จนท.พยาบาล กำลังยุ่งกับการดูแลผู้ป่วยรายอื่น ก็หันไปเห็นผู้ป่วยรายดังกล่าว ใช้มีดเชือดคอตัวเองจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยกัน แต่ช่วยเหลือไม่ทัน เพราะผู้ตายเสียเลือดมากจนช๊อคหมดสติและขาดใจตายในที่สุด เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นชายเรร่อนเข้ามารักษาตัว ยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ จึงนำศพเก็บไว้ที่ รพ.กระบี่ รอติดต่อญาติให้มารับศพต่อไป
ทั้งนี้สอบถามจากนายโชคชัย ชัยสงคราม อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้ป่วยรายอื่นที่มานอนรักษาตัว รพ.เดียวกัน เล่าว่า ก่อนที่ผู้ตายจะก่อเหตุสยองครั้งนี้ นายโชคชัย เคยมาเยี่ยมและพูดคุยกับผู้ตายหลายครั้งแล้ว เพราะเห็นว่าผู้ตายมีอาการป่วยคล้ายเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว และไม่มีญาติมาคอยเฝ้า จึงแวะเวียนมาเยี่ยมผู้ตายเป็นประจำเวลามาเยี่ยมญาติ จนเช้าวันเกิดเหตุ ก็แวะเข้ามาเยี่ยมเหมือนปกติ แต่เห็นผู้ตายยังนอนหลับอยู่ตอนเช้า จึงไม่ได้เข้าไปรบกวน กระทั่งมาอีกทีตอนหลังเกิดเหตุ ก็ต้องช๊อกเมื่อทราบจากพยาบาลว่าผู้ตายใช้มีดเชือดคอตัวเองตาย ซึ่งสาเหตุตนเองก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่ผู้ตายเคยบ่นให้ฟังคือเรื่องไม่มีญาติมาคอยเฝ้าไข้ จึงอาจเกิดอาการน้อยใจ
ขณะที่ นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ กล่าวว่า กรณีของผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว จากการสอบถาม จนท.ที่เข้าเวรในตึกดังกล่าว ทราบว่าเข้ามารักษาตัวอยู่นานเกือบเดือนแล้ว โดยเหตุที่ต้องย้ายมารักษาตัวที่ตึกสูตินารีเวช เพราะตึกผู้ป่วยปกติต้องปิดเพราะสถานการณ์โควิด-19 จนท.ให้ข้อมูลว่า วันเดียวกันนี้ แพทย์กำลังจะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้แล้ว เพราะรักษาอาการป่วยจนหายดีแล้ว แต่จากการสอบถามข้อมูล ทราบว่าผู้ป่วยเองก็ไม่มีบ้าน ก่อนจะเข้ารับการรักษาเป็นคนเร่ร่อน พักอาศัยอยู่ตามวัด ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ป่วยได้มาจากไหนตอนยังไม่ทราบ จะให้ทาง จนท.ทำรายงานชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร หลังจากนี้ทาง รพ.จะเพิ่มมาตรการในการตรวจตราผู้ป่วยให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องของอาวุธ และสิ่งของอันตรายทั้งหมด.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: