กระบี่-น้องสุดทนถูกพี่ชายเมาทำร้าย คว้าขวานกระหน่ำจามหัวยับดับคาบ้าน ก่อนนั่งรอมอบตัว
เหตุน้องชายสุดทน ถูกพี่ชายทำร้าย จนคว้าขวานจามหัวเละตายสยองคาบ้านรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 19 ม.ค.65 ร.ต.อ.วีระ ทองอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลำทับ จ.กระบี่ รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 308 หมู่ 5 ต.ทุ่งไทรทอง อ.ลำทับ หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.ลำทับ พ.ต.ท.อรรถพร บุญยะกรณ์ รอง ผกก.สอบสวน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำทับ ชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ พร้อมกู้ภัยมูลนิธิอัมรินทร์ใต้ รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณระเบียงปูนหน้าบ้านพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายรณชัย ทองเถาว์ อายุ 32 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีเศษขวดเหล้าขาวแตกกระจายอยู่ใกล้กับศพ สภาพศพถูกของมีคมฟันเข้าที่ศีรษะหลายแผล ที่หน้าอกซ้ายมีแผลถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์ ใกล้กับบ้านเกิดเหตุพบขวานยาวประมาณ 40 ซม. เปื้อนคราบเลือดตั้งอยู่ในตะกร้ารถ จยย. หน้าบ้านที่เกิดเหตุผู้ก่อเหตุคือนายณรงค์ฤทธิ์ ทองเถาว์ อายุ 26 ปี นั่งรอมอบตัวกับตำรวจ
นายณรงค์ฤทธิ์ ให้การกับตำรวจว่า ผู้ตายเป็นพี่ชายของตนเอง โดยก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนพร้อมด้วยลูก 2 คน พ่อ และแม่ กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ระหว่างนั้นพี่ชายนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าบ้านเพียงคนเดียว พอพี่ชายเริ่มเมาได้ที่ ก็เข้ามาในบ้านพร้อมถือไม้กวาดเข้ามา พูดจาต่อว่าตน และเอาไม้กวาดเข้ามาทุบตีตนเข้าที่ใบหน้าจนปากแตก ต่อหน้าพ่อแม่ และลูกของตน จากนั้นก็เกิดชุลมุนขึ้น พี่ชายคว้ามีดพร้าจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงวิ่งหนีออกมาหน้าบ้าน ก่อนจะวิ่งไปหยิบขวานที่ตั้งอยู่ข้างบ้านมาถือไว้ พอพี่ชายเข้ามาจะทำร้าย จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ตนใช้ขวานฟันใส่ไปจนพี่ชายล้มลง แล้วฟันใส่ไปอีกหลายครั้งจนพี่ชายนอนแน่นิ่งไปและเสียชีวิตในที่สุด ส่วนสาเหตุเกิดจากพี่ชายมักจะต่อว่าตนเป็นประจำ ชอบว่าตนว่าอยู่บ้านสร้างแต่ปัญหา ก่อนนี้ประมาณ 1 เดือน ก็เคยทุบทำร้ายตนจนบาดเจ็บบริเวณศีรษะมาแล้ว ครั้งนี้ยอมรับว่าทำไปเพราะสุดจะทนแล้ว
ต่อมาตำรวจคุมตัวนายณรงค์ฤทธิ์ ไปสอบสวนที่ สภ.ลำทับ พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิต ถูกนำไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ลำทับ ก่อนจะมอบให้พ่อแม่ และญาติ นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: