กระบี่-ระทึก หนุ่มคลั่ง ถือสปาต้าดักฟัน ผช.ผญบ. พร้อมเมียเจ็บ ขณะพาลูกวัย 6 ขวบ ไปส่งโรงเรียน โชคดีล็อกจับไว้ได้
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 ก.ค.65 ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุคนถูกทำร้ายบาดเจ็บริมถนนเพชรเกษมกระบี่-เหนือคลอง หมู่ 12 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ ผู้ก่อเหตุถูกชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจสายตรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ ริมถนนที่เกิดเหตุพบตัวนายประเจียด บุตรนุช อายุประมาณ 35 ปี บ้านอยู่หมู่ 12 ต.กระบี่น้อย ถูกชาวบ้านช่วยกันมัดตัวนั่งอยู่ริมถนน ในสภาพยังมีอาการคุ้มคลั่ง พูดจาเอะอะโวยวายอยู่ตลอดเวลา ใกล้กันพบมีดสปาต้า ยาวประมาณ 50 ซม. ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบนายเกษม ศรีหมาด อายุ 45 ปี ผช.ผญบ.หมู่ 12 อยู่บ้านเลขที่ 15/10 หมู่ 12 ต.กระบี่น้อย พร้อมภรรยา คือ นางหร้อย๊ะ เหร่เด็น อายุ 40 ปี ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขน และข้อมือ ใกล้กันมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน กมม 764 กระบี่ ของคนเจ็บจอดอยู่ เบื้องต้นผู้เสียหายยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจจึงคุมตัวผู้ก่อเหตุไป สภ.เมืองกระบี่ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
สอบสวนเบื้องต้นนางหร้อย๊ะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและภรรยา กำลังพาลูกชายวัย 6 ขวบ ไปส่งโรงเรียนตอนเช้า โดยมีภรรยาเป็นคนทำหน้าที่ขับ ตนนั่งซ้อนท้าย มีลูกชายนั่งตรงกลาง มาถึงจุดเกิดเหตุ เป็นปากทางออกถนนใหญ่ เห็นนายประเจียด ยืนตาขวางรออยู่ พอเห็นรถของตนมาถึง ก็ตะโกนกล่าวหาว่าตนไปบุกรุกบ้านของนายประเจียด ยังไม่ทันได้พูดคุยตอบกลับไป นายประเจียด ก็วิ่งเข้าหาใช้มีดที่ถืออยู่ฟันเข้ามาใส่ตน และภรรยา โชคดีที่พวกตนหลบทัน ตนใช้มือรับจึงถูกมีดบาดเข้าที่ข้อมือ จากนั้นจึงลงจากรถเข้าไปพยายามกอดรัดกันเพื่อจะแย่งมีด โดยมีภรรยาเข้ามาช่วย จนสามารถแย่งมีดออกมาได้และเหยียบตัวให้นายประเจียด นอนคว่ำหน้าอยู่ ก่อนจะให้ภรรยาโทรแจ้งตำรวจมาดังกล่าว ส่วนสาเหตุ เชื่อว่านายประเจียด น่าจะมีอาการหลอนจากการเสพยาเสพติด เพราะก่อนนี้ก็เคยอาละวาดบ่อยครั้งที่บ้าน ตนเองก็เป็นญาติห่างๆ กันด้วย แต่การมาทำแบบนี้เป็นการกระทำเกินไป โชคดีที่ลูกตนไม่เป็นอะไร จึงให้เพื่อนมารับไปส่งโรงเรียน ส่วนตนและภรรยาจะเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะหากปล่อยไว้ เกรงจะกลับมาทำร้ายอีก ส่วนเรื่องที่กล่าวหาว่าตนไปบุกรุกบ้าน ยืนยันว่าไม่จริง ไม่เคยบุกไปบ้านผู้ก่อเหตุมาก่อน
นางหร้าย๊ะ กล่าวด้วยว่า ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนและคนก่อเหตุ ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน แต่มาดักทำร้ายแบบนี้ โชคดีที่ลูกชายที่นั่งมาด้วย ไม่ถูกลูกหลงไปด้วย ประกอบกับโชคดีที่ตนเป็นคนขับ ทำให้สามีที่นั่งซ้อนท้าย สามารถป้องกันไว้ได้ ไม่เช่นนั้นตนและสามี รวมทั้งลูก อาจจะเจ็บหนัก จึงยืนยันจะเอาผิดผู้ก่อเหตุ.
