กระบี่-พ่วง 18 ล้อ จอดรอเลี้ยวกลางถนน กระบะตามหลังชนท้ายสนั่น ดับ 1 เจ็บสาหัส 3
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ค.65 พ.ต.ท.วรยุทธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.สอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุรถกระบะ ชนกับรถพ่วง 18 ล้อ มีคนเจ็บติดอยู่ในรถหลายราย เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษมฝั่งขาออกจากตัวเมืองกระบี่ ช่วงหมู่ 1 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจึงประสานให้ จนท.กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เร่งเดินทางไปที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ เมื่อไปถึงกลางถนนจุดเกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กง 6014 ตรัง จอดขวางอยู่ในสภาพด้านหน้ารถพังยับ หน้ารถกระบะเป็นรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 81-3078 ตรัง จอดอยู่ช่องจราจรฝั่งขวา สภาพล้อด้านหลังฝั่งซ้ายถูกชนเสียหาย ตรวจสอบภายในรถกระบะ พบคนเจ็บ 3 ราย รายแรกเป็นคนขับ ทราบชื่อคือนายกฤตเมธ ยิ้มปรั่ง อายุ 26 ปี อาการเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากัน รายที่ 2 คือ น.ส.กนกวรรณ แป้นแก้ว อายุ 25 ปี ภรรยาของนายกฤตเมธ นั่งมาที่เบาะตอนหลังของรถ อีกคนคือ นางสุธิษา แป้นแก้ว อายุ 47 ปี แม่ของ น.ส.กนกวรรณ บาดเจ็บสาหัส ทั้ง 3 รายเป็นชาวบ้านหมู่ 4 ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จนท.กู้ภัยต้องช่วยกันนำเครื่องตัดถ่าง มาช่วยกันตัดซากรถกระบะ เพื่องัดเอาร่างคนเจ็บทั้ง 3 ราย ออกมาเร่งนำตัวส่ง รพ.กระบี่ ซึ่งต่อมา น.ส.กนกวรรณ เสียชีวิตที่ รพ.
ข่าวน่าสนใจ:
สอบถามจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์ขับรถตามหลังรถกระบะคันที่เกิดเหตุมาจากตัวเมืองกระบี่ มุ่งหน้าไปทาง อ.อ่าวลึก โดยมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ขับอยู่ด้านหน้าสุด มาถึงจุดเกิดเหตุ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชะลอรถแล้วหยุดกลางถนน เพื่อจะเลี้ยวรถข้ามไปยังลานรับซื้อไม้ยางพารา ซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนน จังหวะดังกล่าว รถกระบะคันเกิดเหตุที่ขับตามมาด้วยความเร็ว หักรถหลบไม่ทัน และพยายามเบรกแล้ว แต่ด้วยความเร็วของรถ ทำให้พุ่งชนเข้าช่วงล้อหลังฝั่งซ้ายของรถพ่วงอย่างแรง เสียงดังสนั่น จนเป็นเหตุให้มีคนเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจเตรียมเชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ไปสอบสวน รวมทั้งรอดูอาการคนเจ็บว่ารุนแรงแค่ไหน พร้อมเร่งตรวจสอบเพื่อติดต่อญาติ หลังจากคนเจ็บหายดีแล้วจึงจะเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทราบชื่อคือ นายอนุรักษ์ ชูกิจ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 7 ต.ทุ่งต่อ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังชะลอรถ และเปิดไฟเลี้ยวเพื่อจะเลี้ยวรถข้ามไปยังลานรับซื้อไม้ยางอีกฝั่งของถนน ซึ่งตำรวจตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นจุดที่มีการตีเส้นแบ่งเขตถนน (เกาะกลางเทียม) ห้ามให้กลับรถ หรือเลี้ยวรถ จนท.จึงแจ้งข้อหากับนายอนุรักษ์ ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร ส่วนรถกระบะเคราะห์ร้าย ต้องรอว่าคนขับปลอดภัยหรือไม่ หากปลอดภัยและหายดีแล้ว ก็จะเชิญมารับทราบข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพราะเป็นรถที่ขับตามหลัง แต่ไม่ระมัดระวัง ถือเป็นความประมาทร่วม.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: