กระบี่-สาวเทงานแต่ง หนุ่มช้ำแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกหลอกให้ไปสู่ขอ พบอ้างตัวเป็นลูกบุญธรรมผู้ใหญ่บ้าน ปลอมเฟซบุ๊ก
วันที่ 20 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านรายหนึ่งในหมู่ที่ 1 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ว่า ลูกชายอายุ 24 ปี ถูกสาววัย 25 ปี หลอกให้ไปสู่ขอจัดงานแต่งงาน แต่ขณะที่กำลังจะยกขันหมากไปสู่ขอ เจ้าสาวกลับหนีหายไป ทำให้รู้สึกอับอายชาวบ้านญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังต้องสูญเสียเงินไปอีกเกือบแสนบาทกับค่าถ่ายพรีเวดดิ้ง และการจัดขบวนขันหมาก จัดเตรียมสถานที่
จึงได้ไปตรวจสอบเรื่องนี้โดยพบกับผู้เสียหายคือ นายกฤษฎา เจริญศรี หรือ เคน เป็นเจ้าบ่าว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 1 ต.เขาดิน พร้อมด้วยญาติๆ และพ่อแม่ของนายเคน ซึ่งเปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 สค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางพ่อแม่เจ้าบ่าวและญาติๆจำนวนหลายสิบคน ได้จัดเตรียมขบวนขันหมากเพื่อไปสู่ขอฝ่ายเจ้าสาวคือนางสาวอธิยา อายุ 25 ปี ม.2 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ แต่ปรากฏว่าขณะกำลังจะเดินทางออกจากบ้านในช่วงเวลา 08.00 ของวันดังกล่าว แต่ทางฝ่ายเจ้าสาวได้แจ้งมาในช่วงเวลาตี 5 ว่าเจ้าสาวไม่พร้อมที่จะให้มาสู่ขอโดยผู้ที่แจ้งมาได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ทำให้ต้องยกเลิกการไปสู่ขอและยกเลิกงานแต่ง ซึ่งจะเตรียมจัดขึ้นหลังไปสู่ขอในวันที่ 15 สค.ออกไป
เจ้าบ่าวเผยอีกว่า ตนเองคบหากับทางเจ้าสาวมาได้ประมาณ 8 เดือน โดยทางเจ้าสาวอ้างตนว่าเป็นลูกบุญธรรมของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในตำบลเขาดิน บอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ซึ่งทางครอบครัวตนก็หลงเชื่อ และก็ไม่เคยสอบถาม ต่อมาทางเจ้าสาวได้ไปมาค้างคืนที่บ้านของตนเองบ่อยครั้ง จนกระทั่งช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าสาวได้บอกกับแม่ของตนว่าตั้งท้อง ทำให้แม่ของตนดีใจอย่างมาก เพราะคิดว่าจะได้มีหลานแล้ว ก็รีบจัดหาฤกษ์งานแต่งขึ้นทันที และให้ตนพร้อมเจ้าสาวไปเตรียมตัวจัดแจงถ่ายพรีเวดดิ้งหมดเงินไปหลายหมื่นบาท ส่วนทางแม่ของตนเองก็แจ้งญาติพี่น้องจัดแจงขบวนขันหมากเตรียมไปสู่ขอและจัดเลี้ยงงานแต่ง แต่กลับถูกฝ่ายเจ้าสาวอ้างว่าไม่พร้อมและขอยกเลิกงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อ้างว่ายังไม่พร้อมมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุมาจากทางเจ้าสาวมาคบกับตนไม่ได้ตั้งใจจริง แต่ตั้งใจจะหลอกเอาเงินมากกว่า ซึ่งล่าสุดนี้ก็ได้ให้ตนเซ็นเอกสารบางอย่างไปทำธุรกรรมการเงิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไรไปด้วย
ขณะที่แม่ของเจ้าบ่าว เผยด้วยว่า หลังเกิดเหตุนั้นทางตนและลูกชายได้ไปแจ้งความที่สภ.เขาพนม เพื่อเอาผิดกับฝ่ายหญิง และสอบถามทางผู้ใหญ่บ้านก็ทราบว่า ไม่ได้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเชื่อว่าเป็นการปลอมแปลงขึ้นมาโดยทางเจ้าสาว และทางผู้ใหญ่ก็ไปแจ้งความให้สอบสวนเรื่องการปลอมเฟซบุ๊กแล้วด้วย ส่วนตนเองก็มาทราบเรื่องว่า พ่อแม่ของฝ่ายหญิงนั้นยังไม่ได้เสียชีวิต ยังคงอยู่ที่ตำบลหน้าเขาและตอนนี้ก็ติดต่อได้แล้ว ก็เลยแจ้งเรียกค่าเสียหายไป 2 แสนบาท แต่ตนเห็นใจก็เลยขอเรียกแค่ 5 หมื่น แต่ทางแม่ฝ่ายหญิงบอกว่าไม่มีเงินเสียให้ฟ้องร้องดำเนินคดีไป ซึ่งตนมองว่าการที่ฝ่ายหญิงมาคบกับลูกชายและสร้างเรื่องว่าท้อง อ้างตนเป็นลูกบุญธรรมผู้ใหญ่บ้าน และยังได้ไปทำธุรกรรมการเงินหลายอย่างกับลูกชายตนอีก เป็นการหลอกลวงและเชื่อว่าครอบครัวของฝ่ายหญิงรู้เห็นเรื่องนี้ และที่สำคัญคือทำให้ครอบครัวตนอับอายอย่างมาก เพราะได้บอกญาติๆ ให้มาร่วมงานขันหมากรวมถึงบอกงานวันแต่ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้แต่งงานด้วย
แม่เจ้าบ่าวยังเผยอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า หญิงสาวรายนี้ เคยมีสามีมาแล้วและมีลูก 1 คน ตอนนี้ตนติดต่อไม่ได้ แต่ได้ทราบว่าล่าสุด ได้หนีท้าวแชร์คนหนึ่งที่ตามทวงหลังจากได้เงินแชร์ไปแล้ว แต่ไม่ยอมจ่ายค่างวดเลยด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: