กระบี่-คืบยิง 3 ศพ ตร.เข้าปิดล้อมจับคนยิงได้แล้ว พบหลอนยาบ้า ขณะที่พบประวัติเคยต้องโทษคดีฆ่าคนแต่ฏีกายก
วันที่ 6 กย. กรณีคนร้ายใช้ปืนยิงเด็กอายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนพนมเบญจาเสียชีวิต 3 ศพ เป็นชาย 1 คน และหญิง 2 คนเหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.30 น. ภายหลังเกิดเหตุทางตร.สภ.เขาพนม ร่วมกับทางตร.ชุดสืบสวน ภ.จว.กระบี่ และชุดหน่วยสวาท ภ.จว.กระบี่ นำกำลังจำนวนกว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมที่บ้านเลขที่ 648 ม.9 ต.พรุเตียว ซึ่งเป็นร้านเปลี่ยนยางและล้อแมครถยนต์ ริมถนนสายเขาพนม ทุ่งใหญ่ หลังจากทางตำรวจสืบทราบว่า คนลงมือน่าจะเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงนั้นได้พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิว สีดำ รุ่น 525 I ทะเบียน 4กน 4567 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในโรงจอดรถข้างร้านสภาพด้านหน้าพังเสียหาย และที่กระจกหน้าฝั่งคนขับมีรอยแตกจากการกระแทก จึงได้เรียกเจ้าของร้าน ซึ่งทรายชื่อคือนายธีรศักดิ์ บุญเรือง หรือเสี่ยต้อย อายุ 42 ปี แต่ทางนายธีรศักดิ์ ไม่ยอมเปิดจนได้ให้ทางพ่อแม่ของนายธีรศักดิ์ มาร่วมเจรจา แต่ผ่านไปนานประมาณ 1 ชม. นายธีรศักดิ์ ก็เปิดประตูออกมาแง้มดู 1 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ ที่ปิดล้อมอยู่ ได้วิ่งเข้าไปเพื่อจับกุมตัว ทางนายธีรศักดิ์ ก็ได้วิ่งไปทางประตูด้านข้าง ในมือถือปืนขนาด .357 แต่เมื่อเห็นพ่อยืนข้างตร. ก็ยอมโยนอาวุธปืนทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นในห้องนอนพบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืน .357 กระจายอยู่ตามพื้นในห้องและตามลานในร้าน ซึ่งถูกยิงไปตามผนังของร้านเป็นรูจำนวนมาก
จากการสอบถามนายธีรศักดิ์ ในเบื้องต้นให้การวกวน แต่ยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามา 2 เม็ดเมื่อคืน จากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวจากบ้านของภรรยาที่ ต.เขาดิน มุ่งหน้ากลับบ้านมาเพียงคนเดียว มาถึงที่เกิดเหตุ รถเกิดไปชนเข้ากับรถ จยย. เมื่อเห็นว่ารถชน ก็เลยจอดแล้วใช้ปืนลูกซองยิงใส่กลุ่มคนตาย ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักกันมากก่อน ส่วนรถที่ติดไฟนั้น เกิดไฟติดขณะที่ชนกัน ไม่ได้เผา ทางตำรวจจึงคุมตัวไว้
ด้านนางประเสริฐ บุญเรือง อายุ 69 ปี แม่ของนายธีรศักดิ์ บอกว่า ลูกชายตนเองติดยาบ้ามานานแล้ว เคยส่งไปบำบัดแต่เมื่อกลับมาก็เสพยาตลอด ที่ผ่านมามีภรรยาและลูกอยู่ที่ ต.เขาดิน ส่วนตัวลูกชายก็จะกลับมานอนที่ร้านนี้ ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุฆ่าคนถึง 3 คน อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายปีก่อนลูกชายเคยต้องโทษในคดีฆ่าคนตายในท้องที่ อ.เหนือคลอง และศาลฏีกาได้ตัดสินยกฟ้องก็ไม่คิดว่าลูกจะมาก่อเหตุแบบนี้ ทั้งนี้ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ ภรรยาของนายธีรศักดิ์ เผยว่า ตนทราบมาตลอดว่าสามีเสพยาบ้า ได้ห้ามมาตลอดแต่ก็ไม่ฟัง ก็แยกกันนอน แต่ก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจำไม่คิดว่าสามีจะก่อเหตุแบบนี้ โดยเมื่อคืนทางสามีตนได้มาชวนตนกับลูกให้ไปนอนที่ร้าน ที่ ต.พรุเตียว แต่สามีออกรถมาก่อนจึงไม่ได้ตามมา ซึ่งหากมาด้วยคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เชื่อว่าที่ทำไปเพราะหลอนจากการเสพยาบ้า
