กระบี่-ชาวบ้านกอดกันร้องไห้ หลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง รวมกว่า 400 นาย เข้าผลักดัน กลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำให้ออกจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันของเอกชน ที่หมดอายุสัมปทาน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ทำให้ กว่า 100 คน ไม่มีที่ไป
วันที่ 6 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านี่คือภาพบรรยากาศชาวชุมชนบางสันพัฒนา กลุ่มผู้เรียกร้องที่ดินทำกินจังหวัดกระบี่ กอดกันร้องให้ด้วยความเสียใจ หลังจากเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง รวมกว่า 400 นาย เข้าผลักดันให้ออกจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ที่หมดอายุ สัมปทานของบริษัทยูนิวานิช จำกัด หมู่ 9 ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา เป็นพื้นที่ ที่กลุ่มเรียกร้องที่ดินทำกิน รวมจำนวนกว่า 100 คน เข้าชุมนุมครอบครองสร้างที่พัก จำนวน 50 หลัง อาศัยในพื้นที่ มาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อเรียกร้องที่ดินทำกิน โดยให้รัฐนำพื้นที่ ที่หมดอายุสัปทาน ในจังหวัดกระบี่ รวม 14 แปลง พื้นที่ 72,000 ไร่ มาจัดสรรให้กับ คนจน ตามมติ ครม. พ.ศ.2547
โดยขณะเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่กลุ่มชาวบ้าน ต่างนั่งพับเพียบก้มกราบเพื่อขอร้องไม่ให้ผลักดันออกจากพื้นที่ แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่แจ้งให้ รื้อบ้านพัก ขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองพระยา อ้างว่าที่ผ่านมา ได้มีการก่อเหตุรุนแรง สะสมกำลังอาวุธและยาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อตรวจค้นพื้นที่ เพิงพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และทำประวัติชาวบ้านทุกคน ไว้เป็นหลักฐาน
นางสาวชนิดา จุลกันณฑ์ ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้าว่า จะผลักดันให้ออกจากพื้นที่ ทำให้กลุ่มชาวบ้าน ไม่ได้เตรียมตัวขนย้ายทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กลุ่มชาวบ้านจะย้ายออกจากพื้นที่ ไปปักหลักสร้างที่พัก บริเวณเกาะกลางถนนสาย เซาเทรินซีบอร์ทชั่วคราว เนื่องจากทุกคนไม่มีที่อยู่อาศัย เป็นคนจน ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากบางคนมีลูกหลาน เป็นเด็กนักเรียน เรียนหนังสืออยู่ในพื้นที่
ขณะที่ นางบุปผาทิพย์ พรหมศรี อายุ 46 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่มานานหลายปี เพื่อเรียกร้องให้รัฐจัดสรรที่ดินทำกินให้แต่ที่ผ่านมา มีหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่รับปากว่าจะช่วยเหลือ เช่าบ้านให้ สร้างอาชีพให้ จัดหางานให้ แต่ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด หากให้ออกจากพื้นที่ ก็จะไม่มีที่พักอาศัย เรียกร้องหน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือด้วย
นาวสุปรียา อุไรโรจน์ อายุ 48 ปี เปิดเผยว่า หากให้กลุ่มชาวบ้าน ออกจากพื้นที่ หลังจากนี้จะให้ชาวบ้านไปอยู่ที่ไหน เพราะทุกคนไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีที่ไป ส่งผลกระทบต่อลูกหลานที่เรียนหนังสือตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่
สำหรับปัญหาการ ต่อสู้เรียกร้องที่ดินทำกิน ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยให้รัฐนำพื้นที่ สวนปาล์มน้ำมันที่หมดอายุสัปทาน รวม 14 แปลง พื้นที่กว่า 72,000 ไร่ มาจัดสรรให้กับคนจน ตามมติครม. 2546 ผ่านมากว่า 10 ปี ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข มีความขัดแย้งรุนแรง มีแกนนำชาวบ้าน ถูกยิง เสียชีวิต กว่า 10 คน
