กระบี่ บึ้มสยอง หนุ่มเก็บของเก่าที่กระบี่ เอาระเบิดมาทุบหวังเอาเศษเหล็ก ตูมสนั่นดับคาที่
เหตุการณ์นี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 2 เม.ย.66 ร.ต.อ.สยาม สวนอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ข้างบ้านเลขที่ 1/49 บ้านหน้าค่าย หมู่ 9 ต.คลองท่อมใต้ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนประสานให้ตำรวจชุด EOD ของ ภ.จ.กระบี่ พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.กระบี่ แพทย์เวร รพ.คลองท่อม จนท.กู้ภัยเทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ และกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
โดย จนท.ต้องกันพื้นที่เป็นวงกว้าง ไม่ให้ชาวบ้านใกล้เคียงเข้าใกล้จุดเกิดเหตุ บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว อยู่ติดกับสวนปาล์ม สภาพมืดสนิท ชุด EOD เข้าไปตรวจสอบจุดที่ผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด อยู่ใกล้กับตัวบ้าน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายกัมปนาถ ทรัพยเจริญ อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ อาชีพเก็บของเก่าขาย สภาพศพนอนคว่ำหน้าทับลูกระเบิดอยู่หลายลูก แต่ยังไม่ทราบชนิดว่าเป็นระเบิดชนิดใด ใกล้กันยังมีระเบิดอีกบางส่วน ร่างผู้ตายมีบาดแผลแขนขวาขาดจากแรงระเบิด ตามใบหน้าและลำตัว มีรอยสะเก็ดระเบิดทั่วร่าง จนท.ชุด EOD ต้องใช้เวลาเก็บกู้วัตถุระเบิดส่วนที่ยังไม่ระเบิดออกอย่างระมัดระวัง กินเวลานานกว่า 3 ชม. จึงเคลื่อนย้ายศพออกมาได้ ก่อนจะส่งไปตรวจอย่างละเอียดที่ รพ.คลองท่อม
เบื้องต้นสอบถามชาวบ้าน ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ (ขอเบลอหน้าเสียงชาวบ้าน) ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น 1 ครั้ง จากนั้นได้ยินเสียงคนร้องด้วยความเจ็บปวด ชาวบ้านจึงรีบวิ่งไปดู เพื่อจะช่วยเหลือ ก็พบผู้ตายนอนอยู่ในจุดดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบว่ามีวัตถุระเบิดอยู่อีก จึงรีบโทรแจ้ง จนท.ให้เข้ามาตรวจสอบ ชาวบ้านยังให้ข้อมูลว่า พื้นที่ดังกล่าว จะได้ยินเสียงระเบิดจนเคยชิน เพราะอยู่ติดกับค่ายทหาร ร.15 พัน 1 น่าจะเป็นเสียงการซ้อมรบของทหาร ช่วงเกิดเหตุผู้ตายอยู่กับแม่เพียง 2 คน แต่แม่น่าจะอยู่ในบ้าน จึงไม่ได้รับอันตราย
เบื้องต้น จนท.คาดว่า ผู้ตายอาจไปเก็บระเบิดดังกล่าวมา แต่ยังไม่ยืนยันว่าไปพบ และเก็บมาจากไหน ก่อนจะนำมาแยกเศษเหล็กขาย โดยอาจใช้วัตถุบางอย่างเคาะไปที่ระเบิดทำให้เกิดระเบิดขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางชุด EOD ต้องปิดกั้นพื้นที่ไว้ก่อน ไม่ให้ชาวบ้านเข้าใกล้ เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งในตอนเช้า เพราะสภาพพื้นที่มืดสนิท เกรงจะเกิดอันตราย พร้อมทั้งจะเชิญแม่ และพยานไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: