กระบี่ จนท.เร่งเก็บหลักฐาน ล่าโจรแสบ เจาะหลังร้านขายกล้วยทับริมทาง ใช้พลั่วต่อด้ามยาวเป็นตะขอเกี่ยวลิ้นชักเก็บเงินยกหนีไปทั้งชุด พร้อมโทรศัพท์ 1 เครื่องหนีลอยนวล ขณะวงจรปิดจับภาพพฤติกรรม
วันที่ (12 ธ.ค.66) ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกระบี่ ตร.สายตรวจป้อมกระบี่ใหญ่ จนท.พิสูจน์หลักฐานสภ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบที่ร้านกล้วยทับแม่ฝาด เลขที่ 33/1 ม.2 ต.กระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งเข้าตัวเมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจากนส.จิรภัทร หลวงชนะ อายุ 20 ปี พนง.ร้านดังกล่าว ว่าถูกคนร้ายเข้าก่อเหตุงัดร้านขโมยทรัพย์สินภายในร้าน เป็นลิ้นชักเก็บเงินข้างในมีเงินสด 1,950 บาท โทรศัพท์ยี่ห้อโอปโป รุ่น a17K มูลค่า 6,000 บาทหายไป
ที่เกิดเหตุบริเวณพบบันไดพาดอยู่หลังร้าน ตรงมุมบนหลังคาปูด้วยแผ่นเหล็กมีร่องรอยงัดฉีกกว้างราว 1 ศอก ด้านบนพบกรรไกรชนิดที่ใช้ในครัว 1 เล่มสภาพบิดเบี้ยว ตรงพื้นใต้บันไดพบกรรไกรตัดกระดาษอีก 1 เล่ม นอกจากนี้กล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ผนังหลังร้านใกล้กัน ถูกหักจนเสียหาย คนร้ายโยกไปไว้ด้านในร้าน สภาพห้อยต่องแต่ง
ตรวจสอบภายในร้านพบเก้าอี้สูงล้ม 1 ตัว ชั้นวางแก้วสแตนเลสที่แขวนตรงผนังพังตกลงบนซิ้งล้างจาน นอกจากนี้ยังพบพลั่วพรวนดินอันเล็ก ถูกใช้ลวดมัดกับไม้ความยาวราว 3 เมตร ตกอยู่ ตามฝาผนังทั้งด้านในและด้านนอก มีร่องรอยแฝงเต็มผนัง หลังร้านห่างออกไปราว 20 เมตรเป็นห้องครัว พบกุญแจถูกงัดจนพังเสียหายเช่นกัน ซึ่งอุปกรณ์ที่คนร้ายทิ้งไว้หลังก่อเหตุ เป็นของใช้ภายในร้านทั้งสิ้น จนท.เข้าเก็บวัตถุพยานและร่องรอยนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน เพื่อหาเบาะแสคนร้าย
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดภายในร้านบันทึกนาที คนร้ายพลั่วมัดติดกับไม้ด้ามยาว หย่อนลงเกี่ยวสายไฟตรงเครื่องคิดเงิน ดึงเอาลิ้นชักเก็บเงิน พร้อมโทรศัพท์หล่นลงบนพื้น ค่อยๆ เกี่ยวเข้าชิดผนัง ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นมุมอับของกล้อง
ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะใช้วิธีเกี่ยวขึ้นตรงช่องหลังคา ที่เจาะเป็นช่องไว้ ก่อนหลบหนีไป โดยทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นลิ้นชักเก็บเงิน ข้างในมีเงินสด 1,950 บาท โทรศัพท์ยี่ห้อโอปโป รุ่น a17K มูลค่า 6,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 7,950 บาท ซึ่งเหตุการดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลา 05.16 น.ของเช้าตรู่วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นส.จิรภัทร หลวงชนะ เล่าว่า ช่วงเช้าได้มาเปิดร้านตามปกติทุกวัน หลังจากเปิดประตูตรวจสอบความเรียบร้อยก็พบสิ่งของกระจัดกระจาย มีร่องรอยคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จึงโทรแจ้งทางตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ตนทำงานมาก็สองเดือนกว่า ก็เพิ่งเจอเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก พร้อมฝากคนร้ายให้นำเงินและลิ้นชักเก็บเงินมาคืน
