กระบี่ ชุดพญาเสือ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี สนธิกำลังเข้าตรวจสอบนายทุนนำเครื่องจักรเข้าบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานฯแบลักลอบขุดดิน ยึดได้เพียงรถแบคโฮ 1 คัน ส่วนผู้กระทำผิดไหวตัวทันไม่พบในที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ (3 เม.ย.67) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และจนทประจำหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการโดยนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.5 บก.ปทส.)
ร่วมสนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณป่าบ้านหนองทะเล หมู่ที่ 1 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ค่าพิกัดที่ 47P 0478923 E 893775 N (WGS 84) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หลังรับแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวพบมีนายทุนนำเครื่องจักรเข้าทำการบุกรุก
ตรวจสอบ พบว่ามีพื้นที่ตามที่รับแจ้ง มีการขุดเปิดพื้นที่ป่า ลักษณะเป็นการขุดหินลูกรัง เปิดหน้าดินเป็นบริเวณลึก ลักษณะขุดตักหน้าดิน จนถึงชั้นหิน ในที่เกิดเหตุพบเพียงรถแบคโฮ ยี่ห้อ SUMITOMO สีเหลือง จำนวน 1 คัน ไม่พบคนขับแต่อย่างใด ซึ่งรถแบคโฮถูกจอดทิ้งไว้ห่างจากจุดที่มีการขุดบ่อลูกรัง ประมาณ 50 เมตร จนท.จึงทำการตรวยึดไว้นำส่งพงสฯสภ.อ่าวนางเพื่อสืบสวนติดตามตัวดผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า พื้นที่ที่พบการบุกรุก พบว่ายังซ้อนทับป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนางป่าหางนาค มีการขุดตักหน้าดิน เปิดภูเขาด้านหลังแปลง ซึ่งมีลักษณะสูงชัน จนมีหินไหลตกมาในพื้นที่ ซึ่งร่องรอยการขุดพื้นที่ดังกล่าวมีการทำประโยชน์มาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจหาค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียม (GPS) ของทางราชการทำการตรวจวัดพิกัดของพื้นที่บุกรุก ก่อสร้าง ยึดถือครอบครอง คำนวณเนื้อที่ได้ 3-1-73 ไร่
ได้ทำการนำค่าพิกัดดังกล่าวนำไปตรวจสอบกับข้อมูลการแจ้งการครอบครองที่ดินตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พบว่าแปลงดังกล่าว มีส่วนซ้อนทับกับแปลงที่ ของชาวบ้านรายหนึ่ง ที่ได้แจ้งการครอบครองที่ดินไว้อยู่ระหว่างรอการพิสูจน์สิทธิ มีเนื้อที่ 7-2-46 ไร่โดยมีการขุดดินบุกรุกขยายเปิดพื้นที่ป่าจากแปลงที่ได้ดำเนินการสำรวจให้มีการผ่อนผันให้ทำกิน
จากการตรวจสอบจนท.ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ไว้ทั้งหมด 8-0-57 ไร่ พร้อมตรวจยึดรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นของกลางในการกระทำความผิด ร่วมกันทำบันทึกการตรวจสอบ ตรวจยึด พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: