นักท่องเที่ยว และประชาชนแตกตื่น พายุงวงช้างมาเป็นคู่แฝด 2 งวง เหนือท้องฟ้า กลางทะเลหน้าหาดเกาะกวาง เห็นได้ชัด
จากหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง และ ม.3 ต.หนองทะเล จ.กระบี่ โดยนาทีพายุพัดอยู่กลางทะเลนางสาวสิริลักษณ์ เกบุตร ชาวบ้านในพื้นที่บันทึกภาพไว้ได้ขณะเกิดเหตุพัดอยู่กลาวทะเลหน้าหาดเกาะกวาง ก่อนพัดขึ้นฝั่งถล่มบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.หนองทะเลได้รับผลเสียหาย 2 หลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 มิ.ย.62 นี่คือคลิปนาทีพายุงวงช้าง คู่แฝด 2 งวง พัดกลางทะเลกระบี่ มองเห็นได้จากบริเวณ ชายหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง และ ม.3 ต.หนองทะเลอ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวถ่ายเอาไว้ได้ ก่อนพัดขึ้นฝั่งถล่มบ้านของนายอับดลร่อหมาน บุตรสา อายุ57 ปี เลขที่ 48/2 ม.3 ต.หนองทะเล กระเบื้องหลังคาปลิวหายแตกกระจัดกระจายกว่า 200 แผ่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบด้วย เครื่องซักผ้า ตู้เย็นและเครื่องเสียงเสียหาย นอกจากนี้ห่างออกไป 200 เมตร ยังพัดถล่มโรงรถของนางสาวโกสุม บุตรสา อายุ 35 ปี เลขที่152/1 ม.3 ต.หนองทะเล หลังคาเหล็กมุงด้วยสังกะสีปลิวหายไปทั้งแถบ รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยพายงวงช้างพัดถล่มอยู่นานกว่า 10 นาที หลังจากนั้นเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักนานกว่า 3 ชม.
หลังเกิดเหตุนายสุขกาย จันทร์อ่อน นายกอบต.หนองทะเล นายสมศักดิ์ เตบบุตรผู้ใหญ่บ้านม.3 ต.หนองทะเล นายสุมิตร รักโอ กำนันตำบลหนองทะเล ลงพื้นที่ตรวจสอบ ความเสียหายพบบ้านเรือนเสียหายเพียง 1 หลัง โรงรถ 1 โรง เตรียมหาแนวทางช่วยเหลือ
นายอับดลร่อหมาน บุตรสา เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเดินเล่นอยู่หน้าบ้าน สังเกตเห็นพายุม้าวนเป็นเกลียวจากฝั่งชายหาดตรงมายังบ้าน จัวหวะนั้นเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งเข้าไปหลบอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นเสียงดังสนั่นอยู่ประมาณ 10 นาที กระเบื้องแตกกระจัดกระจายเกลื่อน แล้วฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำท่วมเต็มบ้าน ได้แต่หลบอยู่ในครัวหลังพายุสงบจึงแจ้งทางผู้นำท้องถิ่นให้มาตรวจสอบ
ด้านนางสาวโกสุม บุตรสา เล่าว่า ขณะนั้นอยู่ที่บ้านอีกหลัง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200-300 เมตร มีญาติบอกว่า มีพายุพัดเข้ามาที่บ้าน โรงรถหลังคาปลิวหายไปหมดแล้ว ก่อนวิ่งออกมาดู ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้อยู่มา 35 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่เจอ
ด้านนายกอบต.หนองทะเล กล่าวว่า หลังรับแจ้งก็รีบลงพื้นที่ทันที โดยในวันพรุ่งนี้จะเร่งเข้าให้การช่วยเหลือจัดเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายโดยด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเหตุการวาตะภัยบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ ถือว่าหนักสุด เบื้องต้นจากการลงพื้นที่สำรวจพบเสียหายเพียงสองหลัง โดยในวันพรุ่งจะเร่งสำรวจเพิ่ม
ขอบคุณคลิปภาพ: มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา / นายพรประวิทย์ ชาสกุล /นางสาวสิริลักษณ์ เกบุตร
