X

ตะลึง! มือดีลอบตัดกรามซากวาฬสเปิร์มหนัก 12 ตัน คาดทำคุณไสย จนท.เร่งพิสูจน์การตาย (ชมคลิป)

อึ้ง! ซากวาฬสเปิร์ม หนัก 12 ตัน พบที่เกาะลันตา ถูกมือดีลักลอบตัดกราม ส่วนสาเหตุการตายคาดติดเชื้อรุนแรง

 

กรณีชาวบ้านบนเกาะลันตา จ.กระบี่ พบซากวาฬสเปิร์ม หรือวาฬหัวทุย ลอยตายอยู่ระหว่างเกาะลันตา และเกาะไหง ห่างชายฝั่งเกาะลันตาประมาณ 3 ไมล์ทะเล พร้อมประสานให้ จนท.ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) ร่วมกับศูนย์วิจัยฯ อ่าวไทยตอนบน (ชุมพร) เข้ามาตรวจสอบ

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 ก.ค.62 นายสมบูรณ์ เต็มชื่น นอภ.เกาะลันตา จ.กระบี่ , นายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมง อ.เกาะลันตา พร้อม จนท.ทหารเรือ หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะลันตาน้อย ทีมสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กว่า 20 คน เข้าตรวจสอบซากวาฬสเปิร์ม บริเวณชายหาดบ้านหัวแหลม หมู่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อหาสาเหตุการตาย ซึ่งจากการตรวจสภาพภายนอก พบวาฬตัวดังกล่าวเป็นวาฬเพศผู้ ความยาว 12 เมตร น้ำหนักมากกว่า 12 ตัน คาดว่าเป็นวาฬนังไม่อยู่ในช่วงโตเต็มวัย สภาพคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังพบวกรามล่างของวาฬและฟันบางส่วนถูกลักลอบตัดไป ส่วนบริเวณโคนหางมีร่องรอยบอบช้ำอย่างรุนแรง กลางลำตัวมีร่องรอยคล้ายถูกฉลามกัด

นายไพฑูล รอดรัก อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156/34 หมู่ 2 ต.เกาะลันตาใหญ่ ชาวประมงที่ไปพบซากวาฬกลางทะเล เล่าว่า ขณะออกเรือไปทำประมงตามปกติ ได้พบซากวาฬลอยอยู่ จึงประสานให้ชาวบ้านช่วยกันนำเรือมาลากเข้าฝั่ง โดยสภาพที่พบครั้งแรก วาฬยังมีสภาพสมบูรณ์ แต่พอกลับไปดูอีกครั้ง พบกรามล่างถูกลักลอบตัดออกไปแล้ว สอบถามจากชาวบ้านใกล้เคียง พบเห็นชาย 3 คนเข้ามาใกล้ซากวาฬ คาดว่าเป็นกลุ่มคนที่เข้ามาแอบตัด

ด้าน นอภ.เกาะลันตา กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานให้ จนท.เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เกาะลันตา เพื่อสืบหาตัวคนที่แอบเข้ามาลักลอบตัดกรามวาฬ อยากเตือนประชาชนทั่วไป หากพบซากวาฬหรือสัตว์ทะเล ห้ามลักลอบขโมยซากตามความเชื่อแบบผิดๆ เพราะจะมีความผิด เนื่องจากสัตว์เหล่านี้เป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย เบื้องต้นเชื่อว่าวาฬตัวดังกล่าวไม่น่าจะถูกลักลอบล่า

ด้านนายศักดิ์ดา ทวีเมือง ประมง อ.เกาะลันตา กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของวาฬตัวนี้ได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดอาการติดเชื้อ วันนี้ทีมสัตวแพทย์จะเก็บตัวอย่างขิ้นเนื้อไปตรวจสอบอีกครั้ง ว่าจะมีสาเหตุจากการตืดเชื้อหรือไม่ ส่วนซากวาฬที่เหลือจะหารืออีกครั้งว่าจะขนย้ายออกจากพื้นที่อย่างไร เพราะเป็นซากใหญ่ น้ำหนักมาก การเคลื่อนย้ายค่อนข้างจะลำบาก โดยจะประสานให้กรมทรัพยาพรทางทะเลและชายฝั่งดำเนินการเรื่องนี้อีกครั้ง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน