ตาวัย 88 ตาย ลูกๆ เชื่อช็อกจากอุบัติเหตุระทึก รถกระบะพุ่งชนบ้าน ห่างเตียงนอนแค่ 1 ฟุต
ตาวัย 88 ตายไม่ทราบสาเหตุ ลูกๆ เชื่อช็อกจากเหตุการณ์รถกระบะพุ่งชนบ้านรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. ของวันที่ 10 ก.ค. 62 พ.ต.ต.สุภัทร เหมจินดา สว.สอบสวน สภ.เหนือคลอง จ.กระบี่ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 6 ต.โคกยาง หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.เหนือคลอง รุดไปยังที่เกิดเหตุ
ในบ้านดังกล่าวพบนายสีแปลง อุดมศรี อายุ 88 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงภายในบ้าน สอบสวน ด.ต.ประมุข อุดมศรี อายุ 50 ปี ตชด.ค่าย 426 ลูกชายผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายเป็นผู้ป่วยด้วยอาการชรา นอนติดเตียงอยู่นาน 4 เดือนแล้ว กระทั่งเช้าวันเดียวกันนี้ รับแจ้งจากนางขนิษฐา ชนะกุล อายุ 47 ปี แม่เลี้ยงของตนว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจ เบื้องต้นแพทย์ไม่ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการสอบถามลูกๆ ของผู้ตาย ทราบว่า บรรดาลูกๆ และญาติ ติดใจสาเหตุการตาย ว่านายสีแปลง อาจจะมีอาการช็อกจากอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งเข้ามาชนบ้าน ได้รับความเสียหาย โดยรถคันดังกล่าวพุ่งชนกำแพงเข้ามาในบ้าน เกือบชนผู้ตายที่นอนป่วยอยู่บนเตียงหน้าบ้าน แต่โชคดีที่รถมาหยุดอยู่ที่ขอบเตียง ห่างจากตัวผู้ตายเพียง 1 ฟุต
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ตร.สภ.เหนือคลอง รับแจ้งมีเหตุรถกระบะพุ่งชนเข้าบ้านหลังดังกล่าว จากนั้น จนท.เข้าไปตรวจสอบ พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้ารีโว่ สีเทาดำ ทะเบียน กธ 5449 กระบี่ ซึ่งมีนายสมเกียรติ จุลเพ็ชร อายุ 36 ปี ชาว อ.เขาพนม จ.กระบี่ พุ่งชนเข้าไปภายในตัวบ้าน กำแพงบ้านเสียหาย รถพุ่งเข้ามาหยุดอยู่ใกล้กับเตียงที่นายสีแปลง นอนพักอยู่ ห่างจากเตียงเพียง 1 ฟุตในสภาพหน้ารถชนเสาบ้านพัก 2 ท่อน นางขนิษฐา ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขาขวา แต่ตัวนายสีแปลง ไม่ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจสอบสวนพยาน ทราบว่า รถคันดังกล่าว ขับมาด้วยความเร็ว บนถนนหมู่บ้าน ก่อนจะหลุดโค้งแล้วพุ่งเข้ามาที่บ้านนายสีแปลง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ลูกๆ เชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายสีแปลง ช็อกและเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น
นางคำนึง ศรีชาย อายุ 55 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรสาวผู้ตาย กล่าวว่า พ่อตนเสียชีวิตจะมีสาเหตุจากเรื่องรถชนหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ก็เชื่อว่าพ่ออาจจะมีอาการช็อกจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนพูดคุยกับญาติๆ พี่น้อง ต่างก็ติดใจการตายของพ่อ ว่าอาจจะมาจากเหตุการณ์รถพุ่งเข้ามาชน จึงอยากให้คู่กรณี เข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งพวกตนเองก็มีเหตุผลพอ
ด้าน ด.ต.ประมุข กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าสาเหตุที่พ่อตนตาย น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุเมื่อบ่ายวานนี้ อาจจะทำให้พ่อเกิดอาการช็อก เชื่อว่าหากไม่เกิดอุบัติเหตุระทึกแบบนั่น พ่อคงยังไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ต้องการให้เป็นคดีความ แค่อยากให้คนขับรถกระบะ มาพูดคุยกัน แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ส่วนจะต้องส่งศพพ่อไปตรวจพิสูจน์หรือไม่ ตนหารือกับพี่น้องแล้วว่าจะไม่ส่งไปตรวจ แค่ติดใจว่าต้นเหตุน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุดังกล่าว เพราะหลังเกิดเหตุ พ่อก็พูดตัดพ้อว่า “กูป่วยจะตายอยู่แล้ว รถยังจะเข้ามาชนอีก”
ทั้งนี้นายสีแปลง เดิมเคยบวชเป็นพระอยู่นานประมาณ 18 พรรษา จนเมื่อ 4 เดือนก่อน มีอาการป่วยด้วยโรคของคนชรา ลูกๆ จึงให้ลาสิกขา ออกมาเพื่อมานอนรักษาตัวที่บ้าน ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ มีนางขนิษฐา คอยดูแลอยู่ โดยในวันเกิดเหตุ ทั้งคู่อยู่กันเพียงลำพัง 2 คน ในส่วนของคดีทางตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาทเฉี่ยวชนทรัพย์สินเสียหาย กับนายสมเดียรติ คนขัยรถกระบะ ส่วนกรณีการเสียชีวิต ตำรวจไม่สามารถแจ้งข้อหาได้ เนื่องจากผู้ตายเสียชีวิตคนละช่วงเวลากับช่วยเกิดเหตุ หากญาติติดใจ ก็ต้องพูดคุยกันเองกับคู่กรณี ซึ่งตำรวจจะเชิญตัวนายสมเกียรติ มาสอบสวนอีกครั้งเพื่อรับผิดชอบในส่วนค่าเสียหายของทรัพย์สิน
