อธิบดีกรมป่าไม้ สั่ง ‘พยัคฆ์ไพร’ ลุยตรวจ 19 เป้าหมาย รุกป่าสงวนฯ ที่กระบี่กว่า 2,400 ไร่ ประเดิมยึดกว่า 200 ไร่
กรมป่าไม้เปิดปฏิบัติการลุยตรวจผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ จ.กระบี่ หลังแปลภาพถ่ายทางอากาศพบพื้นที่ถูกบุกรุกกว่า 2,400 ไร่ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจกรมป่าไม้ หรือชุด ‘พยัคฆ์ไพร’ ร่วมกับชุดปฏิบัติการสำนักป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมป่าไม้ โดยการนำของนายศุภชัย สุกไส ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ (กรมป่าไม้) นำกำลัง จนท.ป่าไม้กว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าเขาหลัก หมู่ 7 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา ครอบคลุมพื้นที่เทือกเขาพนมเบญจาบางส่วน โดยพบพื้นที่บนยอดเขาหลัก ถูกบุกรุกแผ้วถางจนเตียนราบ
โดยพื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่กลางหุบเขา มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พบมีการปลูกต้นยางพารา ต้นปาล์มน้ำมัน และบางส่วนเพิ่งถูกแผ้วถาง เนื้อที่รวมประมาณ 165 ไร่เศษ จนท.ทำการจับพิกัดโดยรอบพื้นที่ เพื่อตรวจสอบ และนำไปเปรียบเทียบกับภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ.2545 กับภาพถ่ายปัจจุบัน พบพื้นที่ถูกปรับสภาพอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบค้นไม้ใหญ่บางส่วนถูกเจาะโคนต้นเพื่อใส่ยาฆ่าตอ หวังให้ต้นไม้ยืนต้นตาย จึงทำการตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว พร้อมเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
นายศุภชัย กล่าวว่า ปฏิบัติการตรวจสอบในครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการด่วนให้ชุดพยัคฆ์ไพร โดยการนำของนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า 2,471 ไร่ ใน จ.กระบี่ หลังตรวจภาพถ่ายทางอากาศปี 2558 พบเนื้อที่ทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงสภาพจากภาพถ่ายปี 2545 โดยปฏิบัติการครั้งนี้ กำหนดเป้าหมายตรวจสอบไว้จำนวน 19 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.เมืองกระบี่ อ.เขาพนม และ อ.ลำทับ เบื้องต้นตรวจสอบไปแล้ว 2 จุด สามารถตรวจยึดพื้นที่คืนได้แล้วกว่า 200 ไร่ พบพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกเข้าไปปลูกปาล์ม และยางพารา
สำหรับพื้นที่กว่า 2,400 ไร่ ที่พบทางภาพถ่ายทางอากาศ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาพนมเบญจา ซึ่งเป็นเทือกเขาใหญ่สุดใน จ.กระบี่ และยังเป็นป่าต้นน้ำสำคัญของ จ.กระบี่ จากข้อมูลกรมป่าไม้ พบว่าจุดที่ถูกบุกรุกมาสุดอยู่ในพื้นที่ ต.เขาพนม อ.เขาพนม เนื้อที่ป่าสงวนฯ ถูกบุกรุก 1,464 ไร่ นอกจากนี้ยังพบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาหน้าวัว ป่าเขาหน้าแดง ป่าเขาอ่าวป่อง และป่าเขาไม้แก้ว อีกบางส่วน โดยบางจุดจะอยู่ใกล้กับพื้นที่สวนปาล์มของกลุ่มนายทุน บางส่วนอยู่ติดกับพื้นที่ ส.ป.ก. ทำให้มีการบุกรุกขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จนท.จะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อย่างต่อเนื่องหลังจากนี้
