เปิดใจเมียเจ้าของปั้มน้ำมันถูกยิงถล่มดับที่ตรัง ขณะที่บ้านครอบครัวและญาติๆเร่งจัดเตรียมสถานที่ ประกอบพิธีทางศาสนา
จากเหตุมือปืนไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนขนาด .22 บุกยิงนายชูใจ รักหอม อายุ 49 ปี เจ้าของปั้มน้ำมัน ช.พันธ์ทิพย์ บ้านควนขวาง ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ร่างพรุน 5 นัด เสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ส.ค. เบื้องต้นตำรวจมุ่งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว รวมทั้งเรื่องชู้สาว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 89 หมู่ 5 บ้านด่าน ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านเดิมของผู้ตาย โดยญาติๆ นำศพของนายชูใจ กลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านหลังดังกล่าว โดยในงานศพ พบกับ นางสุนีย์ รักหอม อายุ 54 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตาย โดยเจ้าตัวบอกว่าช่วงเกิดเหตุ อยู่ที่ปั้มน้ำมันดังกล่าว
นางสุนีย์ เผยนาทีคนร้ายยิงสามีเสียชีวิตว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ สามีกลับมาจากไปออกกำลังกาย มานั่งพักอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนภายในปั้ม ระหว่างนั้นมีรถกระบะสีเขียว จำทะเบียนและยี่ห้อไม่ได้ เข้ามาจอดเติมน้ำมันในปั้ม ตนจึงไปทำหน้าที่เติมน้ำมันให้จนเสร็จ แต่รถกระบะคันดังกล่าวก็ยังไม่ขับออกไปจากปั้ม จอดอยู่ตรงจุดเติมน้ำมันนานเกือบ 5 นาที ตนกำลังเดินกลับเข้าไปที่ออฟฟิศภายในปั้ม ส่วนสามียังนั่งอยู่ที่เดิม ระหว่างที่ตนหันหลังกำลังเดินเข้าตัวอาคาร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตอนแรกยังไม่กล้าออกมาดู เพราะกลัวจะเกิดอันตราย กระทั่งเสียงปืนเงียบลงจึงวิ่งออกมาดู ก็พบสามีนอนจมกองเลือดอยู่แล้ว ส่วนรถกระบะคันที่เข้ามาเติมน้ำมัน ขับออกไปจากปั้มพอดี โดยเลี้ยวไปจอดอยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามปั้ม ตนเห็นสามีอาการไม่ดีก็ร้องขอให้คนขับรถกระบะช่วย คนขับรถตะโกนกลับมาว่าช่วยทำไม จากนั้นก็ขับรถออกไป
นางสุนีย์ เล่าต่อว่า สำหรับปมสังหารนั้น ที่ตำรวจพยายามบอกว่าเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือเรื่องชู้สาว ตนไม่เชื่อว่าจะเป็นประเด็นดังกล่าว เพราะปกติสามีจะบอกตนตลอดว่าไม่อยากลงเล่นการเมือง ส่วนเรื่องชู้สาวก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะสามีเป็นคนทำแต่งาน โดยจะนำรถไถไปรับจ้างไถที่ดินให้กับชาวบ้าน บางรายก็เป็นการช่วยไม่คิดเงิน หากว่างจากงานขับรถไถ ก็จะอยู่ปั้มน้ำมันทั้งวัน ซึ่งปมเหตุที่ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นชนวน น่าจะมาจากเรื่องยาเสพติดมากกว่า เพราะก่อนนี้ลูกชายของตนและสามี ไปติดยาเสพติด สามีเป็นคนไม่ชอบเรื่องยาเสพติด พยายามดึงลูกชายกลับมา อาจจะเป็นไปได้ว่าสามีอาจจะไปพูดอะไร หรือไปรู้ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับกลุ่มค้ายาเสพติดที่ลูกชายไปมั่วสุมอยู่หรือไม่ ประเด็นนี้ตนและพี่น้องสามีพยายามบอกตำรวจตลอด แต่ตำรวจไม่สนใจ
