แก๊งสาวหนุ่มอ้วนผอมสุดแสบ ขับสามล้อพ่วงข้างตระเวนขโมยเครื่องมือช่างกลางวันแสกๆ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่แคร์แม้กล้องสี่ตัวจับภาพ คาดเป็นกลุ่มหาของเก่าขาย
เหตุการณ์แก๊งตระเวนหาของเก่า แอบเข้าไปขโมยของผู้รับเหมาก่อสร้างกลางวันแสกๆ รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 39/1 ถ.ศรีพังงา ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ หลังนายประโมทย์ ทองสุข อายุ 41 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด มาเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ เพื่อเตือนภัย และให้สังคมช่วยกันติดตามตัวคนร้าย 3 คน ก่อเหตุเข้าไปขโมยอุปกรณ์ช่าง ภายในบ้านหลังดังกล่าวในช่วงกลางวัน
ทั้งนี้ภาพในกล้องวงจรปิดจับภาพได้เมื่อเวลา 14.50 น. ของวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา คนร้าย 3 คน เป็นผู้หญิงลักษณะอ้วน 2 คน พร้อมผู้ชายรูปร่างผอมอีก 1 คน ขี่รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวปสีเทา มีพ่วงข้าง ขับมาจอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง จากนั้นคนทั้ง 3 พากันเดินตรวจรอบๆ บ้าน เพื่อขโมยเอาสิ่งของต่างๆ อาทิ เศษเหล็ก เศษอลูมิเนียม สายไฟ โดยภาพช่วงสุดท้ายของคลิป คนร้าย 2 คน ผู้หญิงอ้วน 1 คน พร้อมผู้ชาย เดินเข้ามาภายในตัวบ้าน ทำทีตรวจดูว่ามีคนอยู่หรือไม่ เมื่อสบโอกาสไม่มีคนอยู่ ก็ขโมยเอาสายพ่วงปลั๊กไฟไปทั้งชุด พร้อมบันไดอลูมิเนียม วิ่งขึ้นรถ จยย.พ่วงข้าง แล้วขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตลอดช่วงที่ก่อเหตุ กล้องวงจรปิดจับภาพหน้าตาคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ประโมทย์ เล่าให้ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนพร้อมคนงานก่อสร้าง กำลังทำงานกันอยู่ภายในตัวอาคาร ช่วงด้านหลังของบ้าน ระหว่างนั้นคนงานที่ทำงานอยู่หน้าบ้านตรงจุดเกิดเหตุ ขับรถออกไปเอาอุปกรณ์ทำงาน คนร้ายก็เข้ามาจอดรถ แล้วเดินตระเวนรอบบ้าน ขโมยเอาสิ่งของต่างๆ หลายอย่างไป ทั้งเหล็กที่คนงานตัดเอาไว้มาใช้ทำบ้าน รวมทั้งสายไฟ และบันได รวมถึงอุปกรณ์ช่างอีกบางส่วน ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมา 2-3 ครั้งแล้ว ก่อนนี้มีคนร้ายมาขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ที่ติดตั้งอยู่ข้างอาคาร ต่อมาก็มีคนร้ายเข้ามางัดประตูห้อง แม้สิ่งของที่ได้ไปจะมีมูลค่าไม่มาก แต่เป็นพฤติกรรมก่อเหตุที่อุกอาจเกินไป เพราะคนร้ายไม่ได้กลัวว่าเป็นเวลากลางวัน หรือจะมีคนอยู่เลย ตนจึงนำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ เบื้องต้นเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ น่าจะเป็นกลุ่มตระเวนหาของเก่า ทั่งเศษเหล็ก เศษอลูมิเนียม สายไฟ เพื่อนำไปขายต่อให้กับร้านรับซื้อของเก่า โดยคาดว่าเป็นกลุ่มที่พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
