ญาติเหยื่อฆ่ายกครัว 8 ศพ เดือดร้อนหนัก ธนาคารเตรียมยึดบ้าน 2 หลัง
จากคดีสะเทือนขวัญ นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล พร้อมพวกบุกเข้าจับตัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัติ พร้อมลูก – เมีย และญาติๆ ก่อนลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยมรวม 8 ศพ เมื่อเดือน ก.ค.60 โดยมีชนวนเหตุมาจากปัญหาการจำนองที่ดิน ซึ่งผู้ตายนำไปจำนองไว้กับคนร้าย ก่อนที่นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต จะนำที่ดินดังกล่าวไปจำนองต่อไว้กับธนาคาร ต่อมาตำรวจตามจับตัวได้ยกแก๊ง รวม 8 คน ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 – 6 ต้องโทษประหารชีวิต และชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวเหยื่อ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 70 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของนายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ หลังนายจรีย์ ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากบ้านที่อาศัยอยู่ กับบ้านเลขที่ 25/14 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง บ้านเกิดเหตุคดีฆาตกรรมยกครัว กำลังจะถูกธนาคารยึด ซึ่งเป็นผลพวงมาจากปัญหาระหว่างนายวรยุทธ และนายซูริก์ฟัต
ข่าวน่าสนใจ:
- เครื่องกั้นรถไฟคลองแขวงกลั่นพังบ่อย ล่าสุดลงปิดขวางถนนนานข้ามคืน
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
นายจรีย์ กล่าวว่า โฉนดที่ดินของบ้านทั้ง 2 หลัง นายวรยุทธ นำไปตั้งจำนองไว้กับนายซูริก์ฟัต เมื่อปี 2554 โดยทราบว่าได้เงินมาจำนวน 7 แสนบาทเศษ จากนั้นก็มีการผ่อนชำระกันจนหมด แต่ต่อมาทราบว่าที่ดินทั้ง 2 แปลง นายซูริก์ฟัต นำไปตั้งจำนองไว้กับธนาคารอีกทอดหนึ่ง ร่วมกับที่ดินของบุคคลอื่นอีก 2 แปลง รวมเป็นโฉนดที่ดิน 4 แปลง ทำสัญญากู้เงินไว้เพียงสัญญาเดียว โดยตนในฐานะเจ้าของบ้าน ถูกนายซูริก์ฟัต หลอกให้ไปเซ็นเอกสารจำนองกับธนาคาร ซึ่งขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นเอกสารอะไร แต่เห็นว่าเป็นคนกันเองไม่คิดว่าจะมีปัญหา จึงยอมเซ็นให้ ต่อมาเมื่อมีการทวงถาม จึงเกิดปัญหาและเป็นชนวนเหตุในการสังหาร ต่อมามีหนังสือบังคับคดีส่งมาที่บ้าน ว่าธนาคารจะนำบ้านทั้ง 2 หลังขายทอดตลาด ทำให้ตนและครอบครัว กำลังเดือดร้อนไม่มีที่อยู่
นายจรีย์ กล่าวต่อว่า ตนสอบถามไปยังธนาคาร ว่าที่ดินทั้ง 2 แปลง นายซูริก์ฟัต จำนองไว้เท่าไหร่ ทางธนาคารแยกจำนวนเงินมาให้ เป็นเงินรวมเฉียด 3 ล้านบาท ซึ่งตนและครอบครัว ไม่มีเงินจะไปไถ่ถอนคืนมา ตอนนี้จึงเดือดร้อนอย่างหนัก อยากให้ผู้เกี่ยวข้องยื่นมือช่วยเหลือเรื่องนี้ด้วย
ด้านนางอัญชลี บุตรเติบ อายุ 32 ปี 1 ในเหยื่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เผยด้วยว่า ปัญหาดังกล่าวกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของครอบครัว เพราะหากมีการยึดบ้านทั้ง 2 หลัง ตนและครอบครัวจะไร้ที่อยู่ทันที เพราะไม่สามารถหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นไปไถ่ถอนคืนมาได้ หลังจากสามีของตนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนต้องออกมาดิ้นรนทำงานหาเงินเลี้ยงลูก 3 คน เพียงลำพัง จึงอยากขอให้ผู้ที่สามารถช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ ช่วยหาทางออกให้ด้วย หากบ้านทั้ง 2 หลังถูกยึด ตนและครอบครัวอีกหลายชีวิตจะไม่มีที่อยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: