ม๊อบเรียกร้องที่ดินทำกิน เฮ ป่าไม้ยึดคืนสวนปาล์มหมดสัมปทาน จี้เร่งนำมาจัดสรร หวั่นเจ้าหน้าที่รัฐแอบแฝงหาผลประโยชน์
วันที่ 27 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ กลุ่มเกษตรกรเรียกร้องที่ดินทำกิน ยังคงกางเต็นท์ ปักหลักชุมนุม ต่อเนื่องเป็นวันที่ 17 จากที่ขออนุญาตชุมนุม ไว้ 100 วัน เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดกระบี่และกรมป่าไม้ นำที่ดินที่ขาดอายุสัมปทาน ที่นายทุนเช่าทำสวนปาล์มน้ำมัน เนื้อประมาณ 7 หมื่นกว่าไร่ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มาจัดสรรให้กับคนจน ถึงแม้ว่าทางจังหวัดจะมีหนังสือแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุม ออกจากพื้นที่ก็ตาม โดยให้เหตุผลว่า จะใช้สนามหน้าศาลากลางจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจ 29 ก.ย.-7 ต.ค.นี้
นายชูวงศ์ มณีกุล แกนนำกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายไร้ที่ดินทำกิน กล่าวว่า ทางกลุ่มเกษตรกรเรียกร้องที่ดินทำกิน จะไม่ยอมออกจากสนามหน้าศาลากลางอย่างแน่นอน เพราะพวกตน ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ชุมนุมไว้ก่อน และใช้พื้นที่ชุมนุมเพียงมุมหนึ่งของสนามเท่านั้น และไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญ หรือกีดขวางทางสัญจร แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าทางจังหวัดจะมีหนังสือแจ้งมาว่าให้พวกตนออกจากพื้นที่จะใช้สนามหน้าศาลากลางจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจ 29 ก.ย.-7 ต.ค.นี้ เพราะกลุ่มเกษตรกรฯได้ขออนุญาตชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย และไม่แน่ใจว่า หากพวกตนออกจากพื้นที่ไปแล้ว จะได้กลับเข้ามาชุมได้อีกหรือไม่
นายชูวงศ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ สนธิกำลังเข้าตรวจยึดพื้นที่สวนปาล์มขาดอายุสัมปทาน ของบริษัทยูนิวานิช จำกัด มหาชน วานนี้ (26 ก.ย.) ว่า ซึ่งด้วยความเป็นจริงทางกรมป่าไม้ควรจะยึดพื้นที่กลับมาเป็นของไม้ตั้งแต่ขาดอุยุความสัมปทานตั้งแต่ปี พ.ศ.56 แล้วนำมาจัดสรรให้กับคนยากจนไม่มีที่ดินทำกินตามมติคณะกรรมการจัดสรรที่ดินทำกินแห่งชาติ 6+1 ไร่ ไม่ใช่ปล่อยให้นายทุนถือครอบครองเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จนถึงปัจจุบัน
นายชูวงศ์ ยังได้กล่าด้วยว่า หลังจากที่สวนปาล์มของบริษัทยูนิวานิช ในพื้นที่ ม.7 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่หมดอายุสัมปทาน ตนก็ได้นำชาวบ้านเข้าไปปักหลักชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องให้ทางทางกรมป่าไม้ เร่งนำที่ดินมาจัดสรรให้กับคนจนตามมติ ครม..ปี 46 แต่สุดท้ายตนถูกบริษัทฯฟ้อง ข้อหาบุกรุก ถึง 5 คดี แต่สุดท้ายตนได้ต่อสู้ทางกฎหมายชนะทุกคดี และอยากจะเรียกร้องไปยังกรมป่าไม้ เมื่อยึดพื้นที่คืนมาแล้ว ก็ควรเร่งนำมาจัดสรรให้กับคนยากจน ไม่มีที่ดินทำกิน โดยเร็ว
เพราะไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเป็นช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเก็บเกี่ยวผลอาสินผลปาล์มน้ำมัน ไปขายอีก ซึ่งจะเป็นปัญหาความขัดแย้งตามมาอีก และว่าสำหรับพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน ของ บ.ยูนิฯที่ขอเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้ เนื้อที่ประมาณ 2 หมื่นไร่ และได้นำที่ดินบางส่วน ไปขอออกเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก.รวมประมาณ 21 แปลง เนื้อที่ประมาณ 7 พันกว่าไร่ ซึ่งตนได้ฟ้องศาลปกครอง ให้เพิกถอน เมื่อปี 60 ซึ่งคณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งสาเหตุที่ตนได้ฟ้องให้ศาลเพิกถอน เนื่องจากเชื่อว่า การขอออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
