สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 12 สาขา กระบี่ ส่งหนังสือแจ้งให้ บริษัทเอชน ขนย้าย ต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ทรัพย์สินออกจากพื้นที่ ภายใน 7 วัน หลังนำกำลังเข้าตรวจยึดคืนพื้นที่ แปลงเพาะต้นกล้าปาล์มน้ำมัน และ สำนักงาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ที่ หมดสัญญาสัมปทาน 2 หมื่นไร่
วันที่ 30 ก.ย.62 คนงานบริษัท ยังคง ดูแล ให้น้ำ ต้นกล้าปาล์มน้ำมัน จำนวนมาก ตามปกติ ในแปลงเพาะปลูก พื้นที่ ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ แม้ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ชุดพยัคฆ์ไพรกรมป่าไม้ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง จังหวัดกระบี่ ร่วม 100 นาย เข้าตรวจยึดคืนพื้นที่ แปลงเพาะต้นกล้าพันธุ์ปาล์มน้ำมัน และพื้นที่ ตั้งของ สำนักงานของบริษัทเอกชน ประกอบด้วย สิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านพักคนงาน โกดัง โรงจอดรถ รวม 350 ไร่ ซึ่งพื้นที่ทั้งสองแปล อยู่ในพื้นที่ สวนปาล์มน้ำมัน ที่หมดอายุสัมปทาน รวม 2 หมื่นไร่ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2556
นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 กระบี่ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ บริษัท ขนย้าย ต้นกล้า ปาล์มน้ำมัน ทรัพย์สิน เครื่องจัก ภายใน ที่ตั้ง สำนักงาน ตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ออกจากพื้นที่ ภายใน 7 วัน หรือหลังจากได้รับหนังสือ พร้อม แจ้งข้อกล่าวหา กับผู้เกี่ยวข้อง ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ไว้แล้ว ข้อกล่าวหา ยึดถือครอบครองในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ม.14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และผิดตาม ม.54 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
ข่าวน่าสนใจ:
แต่หาก เอกชน ยังไม่พร้อมที่จะเคลื่อนย้าย เนื่องจาก มีต้นกล้าปาล์มน้ำมัน และทรัพย์สิน เครื่องจักรต่างๆ เป็นจำนวนมาก สามารถขอ ยืดระยะเวลา ในการเคลื่อนย้ายได้ แต่ต้องเป็นไปตามความเหมาะสม เช่น ขอเป็น ระยะเวลา 30 วัน ก็สามารถอนุญาตได้
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองปลายพระยา บริษัทดังกล่าว ขอเช่าสัมปทานเข้าทำประโยชน์จากกรมป่าไม้ ปลูกปาล์มน้ำมัน เมื่อปี 2526 เนื้อที่รวม 20,000 ไร่ กำหนดระยะเวลาการเช่า 30 ปี กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2556 สัญญาเช่าหมดอายุ และมีมติ ครม. ปี พ.ศ.2556 ออกมา ไม่ให้ต่ออายุสัมปทาน และให้เรียกคืนพื้นที่ทั้งหมด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: