ผวจ.กระบี่ คุกเข่า อ้อนม็อบชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน ออกจากสนามหน้าศาลากลาง ขอใช้พื้นที่จัดงานบุญ
เวลา 11.30 น.วันที่ 2 ต.ค.62 พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ประธานจัดงานเทศกาลถือศีลกินเจจังหวัดกระบี่ ได้เข้าเจรจาพูดกับชาวบ้านที่เดินทางมาปักหลักกางเต็นท์ ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัดกระบี่ นำที่ดินหมดสัญญาสัมปทานที่นายทุนเช่าปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ประมาณ 7 หมื่นไร่ มาจัดสรรให้กับคนจนไม่มีที่ดินทำกิน ที่ลงทะเบียนไว้กว่า 3 หมื่นราย
โดยเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เดินไปถึงเต็นท์ ของผู้ชุมนุม ก็ได้มุดเข้าไปในเต็นท์ พร้อมนั่งคุยกับชาวบ้านในท่าคุกเข่า และสอบถามถึงความเป็นอยู่ และความต้องการ พร้อมกับขอร้องให้ทางชาวบ้าน ยุติการชุมนุมไปก่อนในช่วงนี้ เนื่องจากทางจังหวัดกระบี่ จะมีการจัดงานบุญ หรืองานเทศกาลถือศีลกินเจ โดยจะมีการรวมพลศาลเจ้าทุกแห่งในพื้นที่ จ.กระบี่ คาดว่าจะมีชาวไทยเชื้อสายจีนเข้าร่วมกว่า 2 พันคน ซึ่งจะมีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 ก.ย.- 7 ต.ค.เกรงว่าจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้รับความสะดวก พร้อมให้ผู้ชุมนุมไปลงชื่อไว้ เบื้องต้นทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยังสงวนท่าทีไม่ยอมออก โดยบอกว่าแกนนำไม่อยู่ ก็ขอพูดคุยกับทางแกนนำก่อน
นางเฉลิม ธีระพงษ์ อายุ 84 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ ก็ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินด้วย เพราะตนเองก็เป็นคนยากจน และไม่มีที่ดินทำกินจริงๆและหลังจากที่ทาง ผวจ.กระบี่ลงมาพบพร้อมกับรับปากว่าจะเร่งนำที่ดินที่หมดสัญญาสัมปทาน มาจัดสรรให้ทำกิน ก็รู้สึกดีใจ ถึงแม้ว่าจะให้กับคนกระบี่ก่อน ตามกติกา แต่ตนเองก็ยังมีความหวัง
ด้าน พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ได้ให้สัมภาษณ์ ภายหลังจากการเจรจาพูดคุยกับชาวบ้าน ว่า หลังจากที่ชาวบ้านได้ออกมาเรียกร้องให้ทางจังหวัดทำที่ดินที่หมดสัญญาสัมปทานมาจัดสรรให้กับคนจน เบื้องต้นได้ให้ผู้ที่มีความประสงค์ต้องการที่ดินทำกินและไม่มีที่ดินทำกินจริงๆมาลงทะเบียนไว้กับทางจังหวัด ซึ่งมีชาวบ้านมาลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นกว่า 3 หมื่นราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อ และรับมอบที่ดินจากกรมป่าไม้ มาจัดสรรให้กับคนจนต่อไป โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์ก่อนก็คือคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.กระบี่
นายชูวงศ์ มณีกุล แกนนำชาวบ้านกลุ่มไร้ที่ดินทำกิน ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าจะปักหลักชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกิน ที่หน้าศาลากลางต่อไป ถึงแม้ว่าทาง ผวจ.จะลงมาคุยและรับปากว่าจะเร่งแก้ปัญหาให้ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ตาม เนื่องจากที่ผ่านมาเกือบ 10 ปีที่ตนได้ชุมนุมเรียกร้องมา แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่หลอกทุกครั้ง ขณะที่สวนปาล์มน้ำมัน บางแปลงที่หมดอายุสัมปทาน มานานกว่า 10 ปี ถูกกลุ่มทุนเข้าแสวงหาประโยชน์ ขายต่อให้กับกลุ่มทุนรายใหม่ นำไปออกเอกสารสิทธิครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังเอื้อให้ข้าราชการบางคน ที่อาศัยช่องว่างของกฎหมายเข้าเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ มาอย่างต่อเนื่อง
นายชูวงศ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนเตรียมยื่นร้องต่อศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว หลังจากทางจังหวัดกระบี่ ได้มีหนังสือแจ้งให้ออกจากพื้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อใช้พื้นที่จัดกิจกรรมงานประเพณีถือศีลกินเจ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึงวันนี้ 7 ตุลาคม เนื่องจาก ทางกลุ่ม ได้รับอนุญาตชุมนุมในที่สาธารณะถูกต้องตามกฎหมาย จึงยืนยันไม่ย้ายออก จากพื้นที่ แต่หากศาลมีคำสั่งให้ออก ก็พร้อมปฏิบัติตาม
นายชูวงศ์ กล่าวด้วยว่า ครม. ปี 2546 มีมติให้จัดสรรที่ดินให้คนจนมานานแล้ว แต่ทางจังหวัดกระบี่ ไม่เคยดำเนินการอย่างแท้จริง แต่กลับ ใช้มาตรการด้านกฎหมาย เอาผิดกับ กลุ่มชาวบ้าน ผู้ยากจน ที่ออกมาเรียกร้องที่ดินทำกิน ถูกจับกุมดำเนินคดีเป็นจำนวนมาก ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาชี้แจงว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ ตนในฐานะแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเห็นว่าไม่ใช่คำตอบที่ต้องการ เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจังหวัดก็มักจะกล่าวอ้างเช่นนี้ จึงยืนยันรวมตัวชุมนุมต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 100 วัน ตามที่ขออนุญาตไว้ จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน
