อุกอาจคนร้ายบุกเดี่ยวย่องเผารถเจ้าของโรงงานกะปิ ที่กระบี่เสียหาย 2 คัน เผยก่อนนี้เคยถูกยิงถล่มบ้านมาแล้ว คาดปมหนี้สิน ด้านตร.ระดมทีมล่า
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 ต.ค.62 พ.ต.ท.พนม นวลละออง สว.สอบสวน สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งมีคนร้ายแอบเข้าไปเผารถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 97/3 ซอยสนามกีฬา หมู่ 10 บ้านคลองไคล ต.คลองพน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ บุญณรงค์ ผกก.สภ.ทรายขาว จนท.ชุดสืบสวน จนท.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 3 คูหา ติดกับตัวบ้านเป็นโรงจอดรถ พบรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สี่ประตู สีดำ ทะเบียน กค 1626 กระบี่ ใกล้กันพบรถปิกอัพยี่ห้อฟอร์ด ตอนครึ่ง สีเทา ทะเบียน บง 9995 กระบี่ สภาพได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ทั้ง 2 คัน โดยรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ เสียหายส่วนหน้าและในห้องโดยสาร ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม มีเพียงเศษชิ้นส่วนรถที่ถูกไฟไหม้ตกหล่นอยู่บนพื้น สอบถามนายอาเนตร ผลเงาะ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของรถ มีอาชีพเป็นเจ้าของโรงงานผลิตกะปิ ส่งขายรายใหญ่ในพื้นที่ ทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดภายในบ้านจับภาพคนร้ายเป็นผู้ชาย มาเพียงคนเดียว ใช้ผ้าคลุมศีรษะปิดบังใบหน้า หิ้วแกลลอนน้ำมันเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ก่อนจะราดน้ำมันใส่รถแล้วจุดไฟเผา จากนั้นคนร้ายวิ่งหลบหนีออกไปทางหน้าบ้าน
นายอาเนตร ให้การอีกว่า ก่อนจะเกิดเหตุรถยนต์ถูกเผาครั้งนี้ เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่ผ่านมา เคยมีคนร้ายซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ใช้อาวุธปืนมายิงใส่บ้านตน 2 นัด กระสุนเจาะเข้าประตูเหล็กของบ้าน และกระจกข้างบ้านแตก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีการแจ้งความไว้ เนื่องจากทราบตัวผู้ก่อเหตุ และมีการเจรจายอมความกันไปแล้ว โดยครั้งก่อนมีปัญหากันเรื่องหนี้สิน ที่ผู้ก่อเหตุติดหนี้นางรัตนา ผลเงาะ อายุ 60 ปี แม่ของตน เป็นหนี้ค่าซื้อวัตถุดิบในการทำกะปิ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็มาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก ซึ่งตนและคนในบ้าน ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องอื่นกับใคร เชื่อว่ามีเพียงปัญหาลูกหนี้หลายรายในพื้นที่เดียวกัน อาจจะไม่พอใจที่แม่ของตนมักจะไปทวงหนี้ค่าติดบ่อยครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.วิชย์สัณห์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าว เบื้องต้นยังไม่ฟันธงว่าเป็นปมเหตุมาจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตำรวจจะเชิญผู้เสียหาย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ตั้งประเด็นไว้ 2 เรื่อง คือเรื่องขัดแย้งส่วนตัวเรื่องหนี้สิน และอาจจะเป็นประเด็นผู้ก่อเหตุอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แล้วก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่พบมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งตนทำการรณรงค์แก้ปัญหามาตลอด แต่เชื่อว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน ตนสั่งให้ชุดสืบสวนเก็บรวบรวมภาพกล้องวงจรปิดของบ้านที่เกิดเหตุ และจุดใกล้เคียงทั้งหมด พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้แน่นอน
