สาวกระบี่ร้อง ผอ.รพ.ช่วยเหลือ หลังผ่าไส้ติ่งนาน 8 เดือนทำเจ็บเรื้อรัง
สาวชาวกระบี่ ร้องผ่าน ผอ.รพ.หลังเคยเข้าผ่าตัดไส้ติ่งเมื่อ 8 เดือนก่อน ทำให้เจ็บเรื้อรังจนทำงานไม่ไหวรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ต.ค.62 น.ส.ขวัญประพา บุตรน้อย อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282 หมู่ 3 ต.คลองเขม้า อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ พร้อมแฟนหนุ่ม เข้าร้องเรียนกับ นพ.สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.รพ.กระบี่ ที่ห้องทำงาน รพ.กระบี่ โดยเจ้าตัวให้ข้อมูลกับทาง ผอ.รพ.ว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการไส้ติ่งอักเสบ ที่ รพ.กระบี่ ตั้งแต่ผ่าตัดเสร็จเจ้าตัวก็มีอาการปวดช่วงท้องเรื้อรังมานาน 8 เดือน ต้องมาหาหมอรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ทราบว่าอาการที่เป็นเกิดจากอะไรกันแน่ ทำให้ตลอดเวลาที่รักษาตัว ต้องขาดงานบ่อยครั้งจนถูกทางบริษัท และเพื่อนร่วมงานตำหนิว่าทำงานไม่เต็มที่ และถูกหักเงินค่าจ้างช่วงที่ต้องหยุดงาน ส่งผลให้รายได้ลดลงกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน
น.ส.ขวัญประพา กล่าวว่า ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่ง ตนเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่เคยมีอาการเจ็บปวดเหมือนที่เป็นตอนนี้มาก่อน ทางบริษัทก็จัดให้มีการตรวจสุขภาพของพนักงานเป็นประจำทุกปี แต่ภายหลังจากเข้ารับการผ่าตัด ก็เริ่มมีอาการปวดบริเวณช่องท้องอย่างรุนแรง จนบางครั้งไม่สามารถทำงานได้ เพราะตนต้องทำหน้าที่พนักงานขัดสีรถ เกือบทุกสัปดาห์ตนต้องหยุดงานเพื่อมาหาหมอที่ รพ.ให้ช่วยตรวจรักษา โดยใช้วิธีการรักษา ทั้งกินยา ทำกายภาพ ฝังเข็ม แต่อาการก็ยังไม่หาย หมอที่เคยตรวจให้ก็ไม่บอกกับตนว่าเป็นอะไรกันแน่ ทำให้ตนเกิดความเครียด เพราะกระทบต่อการทำงาน รายได้ที่เคยรับเดือนละ 12,000 บาท ต้องลดลงเหลือเพียงเดือนละ 8-9 พันบาท ไม่พอที่จะใช้จ่ายในครอบครัว ทำให้บางครั้งตนเครียดจนแทบจะฆ่าตัวตาย จึงอยากขอร้องให้ช่วยรักษาตนให้หายดีเหมือนเดิม
ด้าน นพ.สุพจน์ ชี้แจงว่า อาการป่วยของ น.ส.ขวัญประพา จากการสอบถามประวัติการตรวจรักษาจากหมอใน รพ. ในเบื้องต้นตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเกิดจากปัญหาระบบปลายประสาท เพราะการผ่าตัดทุกราย หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เส้นประสาทในชั้นผิวหนัง จะต้องถูกตัด แต่ที่ผ่านมาไม่เคยพบกรณีมีอาการปวดเรื้อรังขนาดนี้ จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาการของ น.ส.ขวัญประพา จะเกิดจากการผ่าตัดไส้ติ่งตามที่เจ้าตัวเข้าใจ ก่อนนี้หมอที่ รพ.ก็ให้การดูแลรักษามาโดยตลอด แต่อาการยังไม่ดีขึ้น การช่วยเหลือในเบื้องต้น จะประสานให้หมอที่ทำการรักษา ช่วยเหลือด้วยการทำเอกสารส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อทำการรักษาให้หาย ส่วนจะเกิดจากความผิดพลาดของหมอที่ รพ.กระบี่ หรือไม่ คงต้องดูผลการวินิจฉัยจาก รพ.มอ.ก่อน ซึ่งตนจะช่วยประสานอำนวยความสะดวกให้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้
