จระเข้น้ำจืดขึ้นมาวางไข่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด เจ้าหน้าที่เผยหาชมได้ยากเนื่องจากมีจระเข้ตามธรรมชาติเหลือไม่กี่ที่ในประเทศไทย
นครสวรรค์-ภาพมุมสูงและภาพกำลังฟักไข่เป็นสิ่งที่เห็นกันได้ไม่บ่อยนักสำหรับจระเข้ตามธรรมชาติ แต่ภาพทั้งหมดได้ถูกบันทึกได้ในขณะจระเข้น้ำจืดตัวหนึ่งขึ้นมา “กก” ไข่ที่วางไว้ในรัง บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ของบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์ ที่ยังคงมีให้กับสัตว์ป่าและสัตว์น้ำนานาชนิดใช้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและขยายพันธุ์
ซึ่งจระเข้ตัวนี้ได้ขึ้นมาสร้างรังและวางไข่บนเนินดินบริเวณใกล้สะพานกลางน้ำที่ทำไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ตำบลพระนอน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งในช่วงนี้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติบริเวณดังกล่าวจะได้พบเห็นจระเข้กกไข่ในรังได้อย่างใกล้ชิด
จากการเปิดเผยของนายจิระเดช บุญมาก เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์เปิดเผยว่า จระเข้พันธุ์ดังกล่าวเป็นจระเข้สายพันธุ์น้ำจืดที่อยู่ตามธรรมชาติภายในบึงบอระเพ็ด ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พบการวางไข่ในที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน จึงนับว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยากตามธรรมชาติ เนื่องจากว่าในประเทศไทยมีจระเข้ตามธรรมชาติเหลือเพียงไม่กี่ที่ ส่วนใหญ่จะมีแต่จระเข้ที่เลี้ยงไว้ในลักษณะฟาร์มเพื่อการพานิชย์ ซึ่งโดยปกติจระเข้ตามธรรมชาติจะออกไข่ในที่ลับตาคนซึ่งจะแตกต่างจากจระเข้ตัวดังกล่าวนี้มาก และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจะได้ให้ผู้ที่สนใจทั้งเด็กและเยาวชนเข้ามาศึกษาหาความรู้ของจระเข้ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเข้ามาเที่ยวชมที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดได้ทุกวัน ซึ่งจระเข้ตัวนี้จะวนเวียนอยู่ใกล้รังและขึ้นมา ”กก”ไข่ โดยลำตัวจะมีความยาวประมาณ 2 เมตรอายุประมาณ 7 ปี เป็น 1 ใน 35 ตัวของจำนวนจระเข้ที่อาศัยตามธรรมชาติในบึงบอระเพ็ด นอกจากจะได้ชมจระเข้แล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถลงเรือในบริเวณดังกล่าวเพื่อชมความงามของธรรมชาติที่มีทั้ง ดอกบัว พืชน้ำ และนกหลากหลายชนิดอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก
สำหรับบึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์นั้นเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีเนื้อที่ประมาณ 132,737 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามาถเดินทางไปยังเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดโดยรถยนต์ไปตามทางหลวงสายนครสวรรค์-ท่าตะโก ระยะทาง 13 กิโลเมตร ก็จะถึงทางแยกด้านซ้ายมือไปตามทางบ้านหัวดง อีกประมาณ 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด
