ธ.ก.ส.เมืองปากน้ำโพ- ยกระดับสถาบันเกษตรกร เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรกรอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “แก้หนี้ แก้จน & ก้าวพ้นวิกฤต”
นครสวรรค์-วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรม 42c อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ นายบดินทร์ เกษมศานติ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีลงนาม และส่งมอบบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการพัฒนา ยกระดับสถาบันเกษตรกรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน โดยมี นายภูมิ เกลียวศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนล่าง นายเจริญชัย กสิสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสี ร่วมให้การต้อนรับฯ
สื่บเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ตันปี 2563 และผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในสงครามรัสเชีย ยูเครน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรสูงขึ้น อันเนื่องมาจากราคาปัจจัยการผสิต อาทิเช่น น้ำมัน, ปุ่ยเคมี, อาหารสัตว์, ค่ขนส่ง ฯลฯ มีราคาสูงและส่งผลกระทบให้ราคาสินคำอุปโภคบริโภคสูงขึ้นตามไปด้วย จากผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้เกษตรกรมีภาระต่อตันทุนในการผลิต ภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมทั้งภาระหนี้สินของเกษตรที่สะสมมาจากสถานการณ์ภัยธรรมชาติ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้หนี้สินครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และการดำรงชีพของเกษตรกรและประชาชนโดยทั่วไป ถึงแม้รัฐบาลจะมีนโยบายในการช่วยเหลือหลายด้าน แต่ปัญหารายได้ครัวเรือนยังเป็นปัจจัยที่สำคัญส่งผลต่อภาระหนี้สินที่มีอยู่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนครสรรค์ จึงได้จัดทำโครงการ “พัฒนายกระดับสถาบันเกษตรกรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน”
โดยอาศัยสถาบันเกษตรกรในการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรจากผู้ผลิตตันน้ำ กับผู้ประกอบการปลายน้ำ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นในห่วงโซ่การผลิต และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร พัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผู้ประกอบการ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ตอบสนองนโยบายรัฐบาสในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม จาก พื้นที่การเกษตรของจังหวัดนคสวรรค์ มีพืชเศรษฐกิจหลักของประทศได้แก่ ข้าวเปลือก กับมีเครือข่ายเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการ ที่ดำเนินกิจการรับซื้อ หรือรวบรวมผลผลิตเกษตร ที่มีศักยภาพตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับประทศ อยู่เป็นจำนวนมาก สนจ.นครสวรรค์จึงได้ดำเนินโครยกระดับสถาบันเกษตรกรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “แก้หนี้ แก้จน & ก้าวพ้นวิกฤต”เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตตลอดห่วงโซ่การผลิต โดย ธ.ก.ส.ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ระหว่าง เกษตรกรต้นน้ำสถาบันเกษตรกรกลางน้ำ และผู้ประกอบการปลายน้ำ เพื่อจับคู่ธุรกิจ Business Matching โดยสนับสนุนสินเชื่อต้นทุนต่ำตามนโยบายรัฐ และสินเชื่อเกณฑ์ผ่อนปรน เป็นการเฉพาะ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จัดสรรประโยชน์เพิ่มของโครงการคืนให้แก่ผู้ผลิตต้นน้ำอย่างเป็นธรรม สร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันเกษตรกร ในการทำหน้าที่รวบรวม ผลผลิตจากเกษตรกร และสามารถส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพให้แก่ผู้ประกอบการได้ตามความต้องการของตลาด
การเซ็น MOU ร่วมกันในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่าง ต้นน้ำ-กลางน้ำ-และปลายน้ำ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในห่วงโซ่คุณค่าสินค้าการเกษตร และสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันการเกษตรในการทำหน้าที่ธุรกิจอย่างครบวงจร พร้อมจัดหาผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ ที่สำคัญเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: