เปิดบันทึกน้องชายแดนเขียนเล่าความในใจระบุโดนซ่อมเป็นประจำขณะกวดวิชาในสถาบัน พ่อแม่เผยทราบตอนไปเก็บของหลังน้องชายแดนเสียชีวิต สงสารลูกตอนอยู่ที่สถาบันเหมือนตกนรก
นครสวรรค์-ความคืบหน้ากรณีการสืบสวนสอบสวนคดีร่วมกันทำร้าย ด.ช.ฐปกร หรือน้องชายแดน ทรัพย์สิน อายุ 14 ปี จนถึงแก่ความตาย ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชา เตรียมทหาร “บ้านครูพี่ณัฐ” น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยา และ น.ส.นงลักษณ์ พละแสน แม่ยาย โดยทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ในขณะที่ช่วงสายที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เชิญผู้ปกครองเด็กที่อยู่ในสถาบันเดียวกันจำนวน 8 รายมาสอบปากคำเพิ่ม โดยทีมสอบสวนได้แยกสอบสวนผู้ปกครองในประเด็นต่างๆโดยเฉพาะประเด็นบรรดาลูกๆถูกทำรายร่างกายหรือไม่ เพื่อนำพฤติกรรมของครูณัฐและครูอื่นๆ มาประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายพิษณุ ทรัพย์สิน และนางสุวรรณา ทรัพย์สิน ไปตรวจยืนยันดีเอ็นเอที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อนำมาให้พนักงานสอบสวนยืนยันเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของบุตรชายที่พบจากบ้านพักและไม้เบสบอลของผู้ต้องหา ด้านนางสุวรรรณา เปิดเผยว่าทราบความคืบหน้าทางคดีจากสื่อมวลชนและพนักงานสอบสวน เบื้องต้นก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ และนำตัวมาลงโทษดำเนินคดีแต่พอทราบรายละเอียดจากสื่อมวลชนก็เสียใจมากที่ลูกมาเรียนที่นี่ และยิ่งเจ็บปวดแทนลูกที่ต้องถูกกระทำเช่นนี้ โดยระบุว่าพฤติกรรมของครูณัฐผิดมนุษย์และจะไม่ขอรับการขอโทษจากผู้ต้องหาเด็ดขาด
นางสุวรรณากล่าวต่อว่าขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมโหดร้ายมาก หากพ้นผิดออกมาลอยนวลในสังคมจะมีเด็กเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติ ต้องมาสังเวยชีวิตรับบาดเจ็บเหมือนลูกตน โดยก่อนหน้านี้หลังจากน้องชายแดนเสียชีวิตแล้ว ผู้ปกครองได้เข้าไปเก็บของในสถาบัน แล้วไปเจอจดหมายของน้อง ที่เขียนบันทึกไว้เตรียมส่งให้แม่ แต่ไม่สามารถส่งกลับไป เมื่อพ่อ แม่นำออกมาอ่านถึงกับร้องให้ โดยใจความทราบว่าลูกมาอยู่ที่สถาบันเหมือนตกนรก ต้องถูกซ่อมตลอดเวลาถูกทรมานสาหัส ต้องการกลับบ้านก็กลับไม่ได้ ซึ่งใจความลูกน่าจะมีเรื่องอะไรกันมาก่อนแล้วลูกโดนซ่อมตลอดเวลาและมีข้อความหยาบคายหลายคำ
ด้านนายพิษณุ ผู้เป็นพ่อเปิดเผยทั้งน้ำตาว่าตอนนี้เสียใจมากที่ลูกชายคนเดียวจากไป ครอบครัวตนเหลือกันเพียงสองคนกับภรรยาเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถมีบุตรได้อีก และต้องการให้ครอบครัวของคนร้ายได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมาย อย่าออกมาสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมอีก
