เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 62 เวลา ชาวบ้านสบลี หมู่ 6 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง 195 คน นำโดยนายบุญชู แปดนัด อายุ 64 ปี ตัวแทนซึ่งได้รับมอบอำนาจจากชาวบ้านผู้เสียหายทั้งหมด 212 คน รวมตัวเดินทางมายัง สภ.แจ้ซ้อน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสอง ต๊ะเวทีอดีตกำนันตำบลแจซ้อน และนางบัวเหลียว คำมี ในคดีอาญาทุกฐานความผิด หลังจากทั้งสองคนได้เชิญชวนให้ชาวบ้านได้สมัครเข้ากองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจ บ้านสบลี ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน แต่กลับได้รับเงินออมและเงินสมทบคืน
นายบุญชู แปดนัด อายุ 64 ปีเปิดเผย ว่า เมื่อเดือน ธ.ค.53 ได้มีคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจ ต.แจ้ซ้อน หรือกองทุนออมบุญวันละหนึ่งบาท คือนางบัวเหลียว คำมี ได้เชิญชวนให้สมัครเข้ากองทุนสวัสดิการอิ่มบุญอิ่มใจบ้านสบลี หมู่ 6 ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน ซึ่งทางสมาชิกหลายคนเห็นว่ามีประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว จึงได้ร่วมสมัครเป็นสมาชิก โดยมีเงื่อนไขจากแผ่นพับระบุว่า สามารถออมเงินครบ 5 ปี ถ้าลาออกจะได้รับเงินออมสะสมคืนครบจำนวน มีสวัสดิการในการพักรักษาพยาบาล 100 บาทต่อคืน และไม่เกิน 10 คืนต่อปี และกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินค่าปลงศพ ตามเงื่อนไขจำนวนปีที่ออม และได้รับเงินสะสมคืนครบจำนวน จนกระทั่งเดือน มี.ค.62 ได้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งทางสมาชิกเพิ่งได้รับทราบว่า มีกรณีสมาชิกกองทุนฯเสียชีวิตแต่กลับไม่ได้รับเงินออมสมทบคืนแต่อย่างใด จึงได้เรียกร้องให้ทางคณะกรรมการกองทุนฯ ประจำหมู่บ้านชี้แจงตั้งแต่เดือน เม.ย. 62 ที่ผ่านมา แต่ทางคณะกรรมการไม่เคยมีการชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ โดยที่ชาวบ้านไม่เคยทราบความเคลื่อนไหวของกองทุนเลย ตั้งแต่เปลี่ยนประธานกองทุนคนใหม่เมื่อปี 2558 เป็นต้นมา
ส่วนชาวบ้านได้เล่าอีกว่า เมื่อทางสมาชิกได้สอบถามเรื่องรายรับรายจ่ายประจำปี ทางคณะกรรมการก็ตอบแบบคลุมเครือไม่โปร่งใส และไม่เคยแจ้งให้ทราบเลยว่าได้นำรายชื่อของสมาชิกไปรบเงินสมทบเพิ่มเติมจากทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ลำปาง และ อปท. ทางสมาชิกจึงได้เสนอว่าจะขอลาออกและขอรับเงินออมสะสมคืน ทางคณะกรรมการแจ้งเพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้ระเบียบเดิมแล้ว ซึ่งได้นำระเบียบใหม่จากจังหวัดมาใช้จึงไม่สามารถคืนเงินได้ ชาวบ้านกลุ่มสมาชิกจึงได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 62 ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้รับความชัดเจนเหมือนเดิม จึงหาช่องทางที่จะขอความช่วยเหลือและได้ติดต่อไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดลำปาง ต่อมาวันที่ 22 ส.ค. 62 ได้ข้อสรุปว่า คณะกรรมการจะจ่ายให้เฉพาะเงินออมที่คงเหลือ 4,950 บาท แต่ไม่สามารถนำเงินในส่วนของราชการมาสมทบจ่ายคืนกรณีนี้ได้ ขณะเดียวกันทางสมาชิกได้ตรวจสอบทางเว็บไซด์ www.aombun1bath.com พบว่า ในเดือน ก.พ.62 มีสมาชิกเสียชีวิต 1 ราย แต่ทางคณะกรรมการได้แจ้งขอเบิกจำนวน 3 ราย โดยมีการเบิกจ่ายเงินค่าสวัสดิการปลงศพจำนวน 45,000 บาท ในเดือน พ.ค.62 พบข้อมูลการเงินรายจ่ายอื่นๆ 53,990 บาท ซึ่งถือว่าผิดปกติ และเดือน ก.ค.62 จำนวน 28 ราย แต่ความจริงเสียชีวิตก่อนวันที่ที่ระบุ และอายุสมาชิกไม่ถูกต้อง ขณะนี้มีชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 212 คน โดยมียอดจำนวนเงินออมที่ต้องการรับคือ จำนวน 482,820 บาท โดยทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้ และจะได้เรียกตัวทางผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวนตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- ผู้ใหญ่บ้านร่วมกับชุมชน จัดทำบุญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
- ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ เล็งจับเข่าหารือพัฒนา "เลยดั้น" พร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวน้ำหนาว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: