นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำหัวหน้าหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตามเขตพื้นที่เสี่ยง บริเวณเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อร่วมรับฟังถึงสภาพปัญหาในเขตพื้นที่และแนวทางแก้ไขรวมถึงมาตรการความพร้อมในด้านต่างๆ ที่จะรับมือกับสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น ซึ่งในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมทีมผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเกษตร ท้องที่ท้องถิ่น ร่วมกันเปิดโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดในเขตภาคเหนือ 9 จังหวัด และเป็นปัญหาที่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เฉพาะอย่างยิ่งจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ซึ่งในส่วนของจังหวัดลำปางได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการไว้รองรับในทุกๆ ด้าน เน้นกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการระดับพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เหมาะสม และเน้นการควบคุมเฝ้าระวังการเผาในบริเวณพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงและอยู่ในเขตรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายให้ทุกๆ พื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และมีจำนวนจุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมีเป้าหมายที่จะลดอัตราผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ส่วนมาตรการบังคับในปีนี้ทางจังหวัดลำปาง ได้กำหนดช่วง 60 วัน ห้ามเผาในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563 ซึ่งในช่วงกล่าวจะมีการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามมิให้มีการจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่โล่งแจ้ง และพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำหัวหน้าหน่วยงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตามเขตพื้นที่เสี่ยง บริเวณเขตป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อร่วมรับฟังถึงสภาพปัญหาในเขตพื้นที่และแนวทางแก้ไขรวมถึงมาตรการความพร้อมในด้านต่างๆ ที่จะรับมือกับสถานการณ์ปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่เกิดขึ้น ซึ่งในการนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมทีมผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเกษตร ท้องที่ท้องถิ่น ร่วมกันเปิดโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดในเขตภาคเหนือ 9 จังหวัด และเป็นปัญหาที่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เฉพาะอย่างยิ่งจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ซึ่งในส่วนของจังหวัดลำปางได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการไว้รองรับในทุกๆ ด้าน เน้นกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการระดับพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เหมาะสม และเน้นการควบคุมเฝ้าระวังการเผาในบริเวณพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงและอยู่ในเขตรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายให้ทุกๆ พื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และมีจำนวนจุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมีเป้าหมายที่จะลดอัตราผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ส่วนมาตรการบังคับในปีนี้ทางจังหวัดลำปาง ได้กำหนดช่วง 60 วัน ห้ามเผาในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563 ซึ่งในช่วงกล่าวจะมีการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามมิให้มีการจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่โล่งแจ้ง และพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับในส่วนมาตรการเสริมต่างๆ ที่จะนำมาใช้ทั้งในช่วงก่อน ระหว่าง และหลัง 60 วันห้ามเผา ทางจังหวัดลำปาง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการในทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผา หรือมีการเผาในพื้นที่ให้น้อยที่สุด ซึ่งจะเน้นหลักการทำงานในเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้านห้ามมิให้มีการจุดไฟเผาป่า แต่ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลรักษาผืนป่า เชิญชวนชาวบ้านร่วมเป็นจิตอาสาทำแนวกันไฟ สร้างฝายชะลอน้ำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ในการป้องกันและเฝ้าระวังจะเน้นการใช้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการดำเนินงาน ให้ชาวบ้านได้เป็นกำลังหลักในการสอดส่องดูแลเฝ้าระวังพื้นที่ ไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่าหรือคอยสอดส่องการดำเนินการใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และให้หน่วยงานส่วนราชการรวมถึงหน่วยงานของรัฐ เป็นส่วนกำลังเสริมคอยรับแจ้งเหตุสถานการณ์ เตรียมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของกำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์ และการเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที นอกจากนี้ในมาตรการเตรียมพร้อมหากสถานการณ์หมอกควันไฟป่าในพื้นที่มีความรุนแรง ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันนานกว่า 5 วันขึ้นไป ทางหน่วยงานสาธารณสุขทั่วเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง จะได้มีการออกให้ความรู้เรื่องสุขภาพ แนะนำข้อควรปฏิบัติแก่ประชาชนในชุมชนเขตท้องที่รับผิดชอบที่ได้รับผลกระทบทันที รวมทั้งได้ให้หน่วยงานระดับพื้นที่มีการจัดจุดพักผ่อนปลอดมลพิษ หรือ Safety Zone เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย ซึ่งขณะนี้ทุกหน่วยได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับสถานการณ์ไว้แล้วในทุกเขตพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เช้าวันนี้ (10 มกราคม 2563) พบว่าสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังอยู่ในเกณฑ์สีส้ม คือ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยสามารถวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้สูงสุดที่ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง 64 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และวัดค่าได้ต่ำสุด ที่ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: