วันที่ 4 ก.ค. 2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการ ผลผลิตจากไผ่เป็นชีวมวล สร้างเศรษฐกิจในชุมชน วิสาหกิจชุมชนไผ่เพชรล้านนา โดยมี นายประพัฒนน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนเพชรล้านนา และดำเนินโครงการปลูกไผ่และพืชเพื่อใช้เป็นพลังงานชีวมวล ให้การต้อนรับพร้อม ประชาชนและผู้นำชุมชนในเขตพื้นที่อำเภอแจ้ห่ม มารอต้อนรับและรับฟังแนวทางนโยบายกระทรวงพลังงานกว่า 200 คน
ทั้งนี้ นายสุทธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า หลังจากที่กระทรวงพลังงานขับเคลื่อนนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน เร่งรัดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิด การนำผลผลิตเหลือใช้หรือ เศษพืชจากการเกษตรมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งขณะนี้ทาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ได้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าต้นแบบแห่งแรกของไทย ที่อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ของเอกชนที่อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนจะเข้าไปดูที่แม่แตงในวันพรุ่งนี้ ( 5 ก.ค.63) โดยแนวทางการก่อตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเดินทางมาดูพื้นที่และพบปะ ผู้นำชุมชนที่อำเภอแจ้ห่ม ว่ามีความพร้อมจะเป็นพื้นที่ ก่อตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน นำร่องแห่งแรกของจังหวัดลำปาง ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุนแนวทางการผลักดันนโยบายนี้ให้เกิดขึ้นจริงเพื่อให้ ประชาชนในพื้นที่ได้มีช่องทางรายได้จากเศษพืชที่เหลือใช้ในการเกษตรขายให้กับโรงไฟฟ้าสะอวดชีวมวล และยังช่วยลดปัญหาฝุ่นควัน และไฟป่าที่ลุกลามจากการเผาพืชไร่ อีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามในส่วนตัวนั้นมีความรักนับถือ กับนายประพัฒน์ ปัญญาชาตรักษ์
ซึ่งการเยี่ยมชมสวนไผ่ที่เหมาะสมต่อการส่งเสริม เป็นพืชพลังงาน และพืชเศรษฐกิจมีเตาเผาถ่านไผ่แปรรูปเป็นฐานพลังงานสะอาดสำหรับก๊าซหุงต้ม ในการนี้ได้ชมบ่อแช่น้ำยาป้องกันมอดในไม้ไผ่เพื่องานก่อสร้าง ชมอาคารที่สร้างด้วยไม้ไผ่ รวมถึงนิทรรศการผลผลิตจากไผ่เป็นชีวมวล ที่ วิสาหกิจชุมชนไผ่เพชรล้านนา ดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ ชื่นชมแนวทางการวางฐานรากการจัดการพลังงานชุมชนได้ดี ทั้งนี้มีแผนจะ ลงนามความร่วมมือกับ กระทรวงทรัพยกรธรรมาชติและสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันให้ประชาชนทั่วประเทศ มีส่วนในการใช้ที่ป่าเสื่อมโทรม สำหรับปลูกไม้ที่สามารถใช้เป็นพลังงานชีวมวล สร้างรายได้ชุมชน อยากให้เกษตรกรแจ้ห่ม และทั่วประเทศได้ประโยชน์จากการจัดการพื้นที่ของส่วนรวมให้เกิดรายได้แก่คนรากหญ้าอีกทางหนึ่งในอนาคต
