หลังจากจังหวัดลำปาง โดยนายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางอาศัยอำนาจตามความในมาตรการ 22 และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 52/1 และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ประกาศเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 ในพื้นที่
นายณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ออกมา กล่าวเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนชาวลำปางว่าจังหวัดลำปางในปีที่ผ่านมาและในปีนี้ เราผ่านทุกวิกฤตเราผ่านมาได้ ด้วยดีด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนโนเฉพาะพี่น้องประชาชนช่วยเหลือทางราชการดีมาก ไม่จะเป็นปัญหาหมอกควัน ภัยแล้งและโรคโควิด 19 ในฐานะพ่อเมืองลำปางผมทำงานสะดวกและง่ายจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ตอนนี้ลำปางของเรา โรคโควิด 19 ถ้าใครติดตามข่าวสารโรคโควิด 19 ลำปางเรามีผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่ 4 ราย จริงๆ แล้วไม่ได้เกิดจากลำปางแต่เกิดมีผู้หญิงคนหนึ่งติดเชื้อมาจากกรุงเทพมหานครและทำให้แม่และญาติติดเชื้อรวม 4 ราย เราทำดีมาตลอด จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าทั้งประเทศนิ่งหมดวันนี้เกือบ 50 วัน ไม่มีเชื้อเกิดขึ้นในประเทศเลย แต่ 3-4 วันมีข่าวมีผู้ติดเชื้อซึ่งมาจากต่างประเทศและออกไปสู่ที่สาธารณะซึ่งเป็นที่น่ากลัวมาก
ซึ่งผมได้เชิญทางคณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดมาประชุมและวันนี้จะได้ประกาศข้อสั่งการของจังหวัด แต่คงไม่สั่งเข้มงวดถึงกับขั้นว่าใครที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเช่น กรุงเทพ มหานคร และจังหวัดระยองต้องกักตัว 14วัน คงไม่ถึงขนาดนั้นเนื่องจากต้องเป็นภาระของพี่น้องประชาชน แต่ในฐานะพ่อเมืองเราไม่อยากให้โรคโควิดเกิดในจังหวัดของเราแต่ขอความร่วมมือว่า ข้อสั่งการที่ออกไปคือเรามีทีมงานที่แข็งแกร่งทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นในพื้นที่ โดยเฉพาะอสม.ในพื้นที่ ขอให้ตรวจตราในพื้นที่มีใครเข้ามาหรือมาจากกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดระยอง หรือมีคนในพื้นที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงขอให้รายงานทางจังหวัดทราบ เพื่อเราจะได้ป้องกันคงไม่บังคับให้อยู่บ้าน ในฐานะพ่อเมืองผมอ้อนวอนขอให้อยู่บ้านครบ 14 วัน เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาได้ทัน และที่จังหวัดประกาศข้อสั่งการคือใครที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดระยองหรือกรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลานั้น ถ้ากลัวและกังวลไม่อยากเป็นภาระให้คนลำปางทั้งหมดยังไงขอให้ติดต่อ รพ.สต.ในพื้นที่หรือโรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่หรือเข้ามาที่โรงพยาบาลในจังหวัดหรือสารธารณสุขจังหวัด ถ้ามีความกังวลมากๆ เราจะเทสต์โควิดโรค 19 ให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รัฐจะรับผิดชอบให้
สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมในฐานะพ่อเมืองผมไม่อยากให้เศรษฐกิจการค้าการขายกลับไปลำบากอีก ถ้ามองช่วงที่มีการปลดล็อคช่วงที่ 3 -4-5 ตลาดสด ร้านต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในตัวเมืองปกติประชาชนก็มีความสุข ผมประเมินว่าเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของชาวลำปาง กลับมาใกล้เคียงเหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด ประมาณ 80 เปอร์เซ็น แต่สิ่งที่สวนทางออกไปคือความเข้มข้นของเรา ในการรณรงค์ป้องกันขอความร่วมมือเราไม่ได้บังคับแต่เป็นการขอความกรุณากราบวิงวอนว่าให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหลังลดลงเยอะ ใครต้องการหน้ากากอนามัยหรือเจลล้างมือ สามารถแจ้งความประสงค์เข้ามาได้ เพราะฉะนั้นขอความร่วมมือ อย่างน้อยล้างมือบ่อยๆ ขออย่าให้เกิดอะไรอีกเลย
