หลังจากเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปกรณีชายชาวอำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปางคนหนึ่ง เป็นเชฟในโรงแรมที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 ประสบวิกฤตด้านเศรษฐกิจจากการยกเลิกห้องพักของกิจการโรงแรม กว่า 100% ทำให้ต้องตัดสินใจกลับมาบ้านเพื่อตั้งหลักชีวิตอยู่กับลูกเมีย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจายตัวไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดมาตรการณ์ขอความร่วมมือให้ผู้ที่กลับจากพื้นที่เสี่ยงกักตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน บางคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่ยอมกักตัว สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นวงกว้าง
แต่ชายชาวอำเภอเสริมงามคนนี้ทราบต่อมาชื่อ นายบรรพต หอมอบ อายุ 44 ปี ชาวอำเภอเสริมงามที่ตัดสินใจกักตัวเองอยู่ในกระท่อมปลายนาจนครบ 14 วัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2564 เวลา 16.30 น. นายบรรพต หอมอบ หรือชื่อเล่นว่าหนุ่ย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “วันแรกที่มาถึงและเห็นสภาพของกระท่อมแล้วรู้สึกกังวลหลายอย่างเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่อง อาหารการกิน ที่อยู่ที่พัก ซึ่งกระท่อมไม่มีซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆเลย แต่เมื่อเราตั้งใจจะรับผิดชอบต่อสังคม จะต้องผ่านมันไปให้ได้โดยคิดให้กำลังใจตัวเองว่าถือว่าเป็นการเข้าค่ายเหมือนตอนเราเข้าค่ายลูกเสือตอนเด็ก ๆ ก็แล้วกัน “สิ่งแรกที่ผมกลัวคือผี เพราะว่าผมเป็นคนกลัวผี ที่นี่มืดมากห่างไกลชุมชนและวิเวกเงียบสงัดจนบางครั้งก็ทำให้ผมจิตตกเป็นพัก ๆ แต่วันแรกหลับเร็วหน่อยเพราะเดินทางมาไกลและเพลียจึงหลับง่าย พอวันที่สองที่สามนอนไม่หลับเลยครับ ด้วยความเงียบของที่นี่ได้ยินเสียงสัตว์ตัวเล็ก ๆ โดยเฉพาะหมาเห่าหอน แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อน พอผ่านได้สักสัปดาห์ก็เริ่มเคยชิน”
ข่าวน่าสนใจ:
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- บุรีรัมย์ คริสตจักรเมืองบุรีรัมย์ จัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส ส่งความสุขก่อนปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
“ผมคิดเสมอว่าการที่เราตั้งใจจะรับผิดชอบต่อสังคมมันคือเรื่องที่ดี วันแรก ๆ ที่ผมมาถึงและกลายเป็นข่าว ปรากฏว่าชาวบ้านไม่รู้ใครต่อใครเยอะเอาอาหารน้ำดื่มมาให้กับผมที่รั้วอยู่ตลอดเวลา ผมอยากจะบอกว่าผมทำดีผมกำลังได้ดี ทุกคนยอมรับผม ชาวบ้านและผู้หลักผู้ใหญ่ของเสริมงามเอ็นดูผม และผมอยากจะกล่าวขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่ทุกคนหยิบยื่นให้มา มันเป็นพลังบวกที่ผมต้องพูดกับตัวเองว่า เรามาถูกทางแล้ว ตอนแรกสับสนกับตนเองอยู่บ้างว่าเรามาบ้านแต่ไม่ถึงบ้าน ไม่เจอลูก ไม่เจอเมีย ต้องมาอยู่โดดเดียวลำพังครึ่งเดือน แต่พอทำได้สำเร็จคนในครอบครัวทุกคนยอมรับ ชาวบ้านยอมรับ สังคมยอมรับ และที่ผมแปลกใจและดีใจมากนั่นก็คือ มีการต้อนรับผมอย่างอบอุ่นหลังครบ 14 วันแล้ว ทั้งคณะกรรมการชุมชนที่นี่ ทั้งนายกเทศบาลตำบลเสริมซ้าย กำนันเสริมซ้าย ผู้ใหญ่บ้านสบแม่ทำ แพทย์ประจำตำบล ประธาน อสม. และอีกหลายต่อหลายฝ่าย ถึงขั้นทำใบประกาศเกียรติคุณ ยกย่องให้ผมเป็นคนดีศรีสังคมด้วย ผมรู้สึกอบอุ่นใจมาก และบอกกับตัวเองเลยว่าตอนนี้ ผมกลับมาถึงบ้านอย่างแท้จริงแล้ว”นายหนุ่ยกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: