ปลุกสับปะรดอินทรีย์แก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดลำปางเตรียมส่งเสริม
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2561 นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางลงพื้นที่ชุมชนบ้านทรายทอง หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อเยี่ยมเยือนให้กำลังใจเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดอินทรีย์ โดยเยี่ยมชมดูวิธีการผลิตและการสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตสับปะรด ศึกษาทิศทางการตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อเป็นแนวทางในการผลักดันขับเคลื่อนแผนงานการพัฒนาอาชีพและเศรษฐกิจ ตามวาระจังหวัด “ลำปาง เกษตรสุขภาพ เกษตรคุณภาพ ตลาดนำการผลิต” เตรียมการเดินหน้าส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรสับปะรดแบบครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาผลผลิตในพื้นที่ล้นตลาดราคาตกต่ำและได้เข้าเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าตัวอย่างสับปะรดแปรรูปของสมาชิก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลบ้านเสด็จ ซึ่งได้มีการผลิตสินค้าจำหน่ายในนามร้านค้า “น้ำหนึ่งสับปะรดอินทรีย์” โดยมีนางวันเพ็ญ คมใน เจ้าของร้าน และเป็นเกษตรกรเจ้าของพื้นที่แปลงปลูกสับปะรดอินทรีย์ ได้มาให้การต้อนรับและนำเสนอให้ข้อมูลรายละเอียดในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำสับปะรดอินทรีย์จำหน่ายทั้งสดและแปรรูป พร้อมกับพาเยี่ยมชมพื้นที่แปลงปลูกตัวอย่าง ที่เกษตรกรเจ้าของพื้นที่ได้ทำการจัดสรรผืนที่ดินกว้างกว่า 10 ไร่ ทำการปลูกสับปะรดในรูปแบบระบบอินทรีย์ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันได้ประสบความสำเร็จในอาชีพ สามารถนำผลผลิตสับปะรดสดจากไร่นำส่งตลาดจำนวนมาก จนผลผลิตที่ได้มีไม่พอกับการจำหน่ายจากความสำเร็จดังกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- ปราจีนบุรี ลูกจ้าง อบต.10 คน ถวายหัวหมู หลังถูกเลขเด็ด 2 ตัวตรง
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- คนงานรับเหมาถูกเพื่อนโกหก ทิ้งงาน ไม่มีเงินกลับบ้าน จ.ปราจีนบุรี
- คืบหน้า! เจ้าของร้านหื่น คุกคามทางเพศพนักงาน ขอมีเซ็กซ์ ส่งภาพโป๊-ของลับ ให้ประจำ ด้านเจ้าของร้านปิดปากเงียบ
นางวันเพ็ญฯ เกษตรกรเจ้าของพื้นที่ ได้กล่าวถึงการทำสับปะรดอินทรีย์ว่า แต่เดิมบนพื้นที่แปลงปลูกกว่า 10 ไร่ แห่งนี้ ตนได้มีการปลูกสับปะรดใช้สารเคมีตามแบบชาวบ้านทั่วไป แต่ภายหลังต้องประสบปัญหาการขาดทุน เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทุกปีแต่กลับขายผลผลิตได้ในราคาต่ำ ดังนั้นตนจึงได้คิดปรับเปลี่ยนวิธีการปลูก มาเป็นแบบอินทรีย์ด้วยการใช้ปุ๋ยหมักและสารชีวภาพทดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยได้ทำแบบจริงจังและทำต่อเนื่อง เพียงระยะเวลา 5 ปี ก็ได้เริ่มเห็นผลความต่าง ทั้งในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ลดลง ต้นพันธุ์สับปะรดที่ปลูกมีความแข็งแรงให้ผลผลิตมากสม่ำเสมอ รวมทั้งผลสับปะรดยังมีรสชาติดี หวานหอม กรอบอร่อยไม่แสบลิ้น ปัจจุบันผลผลิตสับปะรดจากไร่ ได้มีการนำส่งจำหน่ายให้กับทางห้างสรรพสินค้า TOP ในนามของไร่เพชรล้านนา และจำหน่ายผลสดทั่วไปในนามสวนตานึก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ได้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความสนใจ และได้รวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ตำบลบ้านเสด็จขึ้น ทำการช่วยกันผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง รวมถึงแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดรายอื่นในหมู่บ้านได้นำไปทดลองใช้ เพื่อจะช่วยส่งเสริมให้พื้นที่ได้มีการผลิตสับปะรดอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันขณะนี้ทางกลุ่มมีสมาชิกรวมกันทั้งหมดกว่า 50 ราย มีการจัดสรรพื้นที่ทำการปลูกสับปะรดอินทรีย์ทั้งในและนอกฤดู เพื่อให้กลุ่มฯ มีผลผลิตจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี โดยผลผลิตสับปะรดบางส่วนที่ได้ ทางกลุ่มฯ ได้มีการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ จำหน่ายในนามร้าน “น้ำหนึ่งสับปะรดอินทรีย์” อาทิเช่น สบู่สับปะรด น้ำสับปะรด สับปะรดกวน และสับปะรดอบแห้ง เป็นต้น เฉพาะอย่างยิ่งสับปะรดอบแห้งถือเป็นสินค้าหลักที่มีความโดดเด่น ด้วยรสชาติที่อร่อยสามารถเก็บไว้ได้นาน และตลาดยังมีความต้องการอีกมาก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จะได้นำข้อมูลไปเป็นแนวทางที่จะใช้สนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในจังหวัดลำปาง ได้หันมาทำการปลูกสับปะรดแบบอินทรีย์ให้มากขึ้น เพื่อจะช่วยเพิ่มมูลค่าแก้ไขปัญหาเรื่องผลผลิตสับปะรดล้นตลาดราคาตกต่ำให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: