เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 ที่ห้องประชุม ภ.จว.ลำปาง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาพล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พร้อมเจ้าหน้าที่ปปส.ฯได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แม่พริกลำปาง ได้จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ได้แก่ นายอภิวัฒน์ สุขอำภร อายุ 24 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี นายภาคิน เหลี่ยมกำแหง อายุ 24 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี นายศักดา งามขำ อายุ 25 ปี ชาว ต.ปลายนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี น.ส.น้ำฝน ธัญญเจริญ อายุ 23 ปี ชาว ต.หนองโพธิ์ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
นายธนากร มะขันทอง อายุ อายุ 37 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี น.ส.ปิยะวรรณ ก่วยสกุล อายุ 30 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี น.ส.ดารารัตน์ สมจิตร์ อายุ 21 ปี ชาว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางยาไอซ์ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาว บรรจุอยู่ในซองชาสีเขียวจำนวน 600 กิโลกรัมมูลค่า600 ล้านก่อนนำตัวไปขยายผลการจับกุม
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5เปิดเผยว่า ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดรายนี้ เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี
ใช้รถยนต์ลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบนจังหวัดเชียงราย เพื่อนำส่งปลายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง จำนวน 3 คัน ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจาก อ.พาน จว.เชียงราย ผ่าน จว.พะเยา ,อ.งาว ,อ.เมืองลำปาง,อ.เกาะคา ,อ.สบปราบ,อ.เถิน และก่อนถึง ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก จว.ลำปาง รถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 3 คัน เป็นรถยนต์ของกลางหมายเลขทะเบียน 4กต9079 กทม. , ญภ 4366 กทม. , ผก 9134 สุพรรณบุรี จากนั้น รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน 4กต9079 กทมซึ่งเป็นรถต้องสงสัยจากนั้นรถคันดังกล่าวผ่านุึดตรวจเจ้าหน้าที่ให้หยุดจอดห่างจากจุดตรวจห่างประมาณ 100 เมตร
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมามีรถ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทมขับมาถึงจุดตรวจ ซึ่งเป็นเป็นรถต้องสงสัยมีคนขับและผู้โดยสาร จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้เรียกให้จอด แต่คันดังกล่าว ได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาล่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขับรถยนต์ไล่ติดตาม ไปจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 589 พบรถยนต์คันดังกล่าว เสียหลักจอดอยู่ร่องกลางถนนโดยเปิดประตูด้านผู้โดยสารทิ้งไว้เครื่องยนต์ยังติดอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แบ่งกำลังออกติดตาม อีกทั้งประสานงานพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ ต่อมาได้รับแจ้งจากชุดจับกุมด่านตรวจพยุหะคีรีฯ ได้สกัดจับรถยนต์เก๋งพร้อมบุคคลในรถ จำนวน 5 คน ยอมรับว่าได้หลบหนีการจับกุม จากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัวมายัง สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดีขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดหนึ่งได้ตรวจสอบภายในรถอีซูซุ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม พบถุงกระสอบสายรุ้ง พบว่าภายในบรรจุยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัมจึงตรวจยึด
ต่อมา ได้มีรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี ได้แล่นมาถึงจุดตรวจด้วยความเร็ว มีคนขับและผู้โดยสาร จำนวน 2 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่ปฏิบัติหน้าที่หน้าจุดตรวจได้กลับรถและทิ้งวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกระสอบถุงสายรุ้ง จำนวน 2 ใบลง จากรถที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 1 กม. เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเป็นถุงกระสอบสายรุ้ง ปรากฏว่าข้างในถุงมีกระสอบฟาง จึงได้แกะดูพบว่ายาไอซ์ 100 กิโลกรัมจึงตรวจยึด นอกจากนี้ยังได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ว่ามีรถกระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี ได้ขับมาถึงด่านตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมประจำด่านตรวจ ดังกล่าว จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น เบท้องต้นรับว่าได้หลบหนีการจากติดตามจับกุม จากจุดตรวจยาเสพติด พื้นที่ สภ.แม่พริก แล้วทิ้งถุงที่บรรจุยาเสพติด จำนวน 2 ถุง ที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจาก จุดตรวจแม่พริก ประมาณ 1 กม. จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบขนยาไอซ์ มาจากจีงหวัดเชียงราย เพื่อนำส่งปลายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง จำนวน 3 คัน เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: