เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 มิ.ย. 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง นายสุวิทย์ อาภากาศ ประธาน ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอย จ.ลำปาง พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 50 คน ได้พากันมารวมตัว พร้อมถือป้ายกระดาษมีความว่า “save คนกลางคืน ขอให้ช่วยเยียวยาเราด้วย จะตายกันอยู่แล้ว” เพื่อ ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ขอให้ช่วยเหลือผ่อนปรนอนุญาตให้เปิดร้านอาหารได้ตามปกติ หลังจากที่สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ลำปาง คลี่คลายลงแล้ว
นายสุวิทย์ อาภากาศ ประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอย จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์โควิด-19 ของ จ.ลำปางดีขึ้นมากแล้ว ตัวเลขนิ่งแล้วผู้ติดเชื้อเพิ่มไม่มี และผู้ป่วยก็หายหมดแล้ว สิ่งที่เรียกร้องไปมี 2 ข้อคือ ทางร้านอาหารและสถานประกอบการต่างๆ อยากจะกลับมาเปิดอีกครั้ง หลังจากต้องปิดร้านไปนานถึง 2 เดือน และอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการด้วย ซึ่งใน จ.ลำปางมีผู้ประกอบการกว่า 100 ร้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนกันทั้งหมด สำหรับคนที่มารวมกันวันนี้เป็นเพียงตัวแทนส่วนหนึ่งที่เข้ามาร่วมยื่นหนังสือเท่านั้น
“ถึงแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีร้านอาหารที่เปิดได้ตามปกติ แต่งดจำหน่ายแอลกอฮอล์ แต่ก็มีบางร้านที่เปิดแล้วไม่คุ้มก็ต้องปิดยาว จึงอยากให้มีคำสั่งเปิดร้านได้เต็มรูปแบบเหมือนเดิม เพราะ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน แต่รัฐบาลไม่ได้มองในจุดนี้เลย มีการเยียวยาพนักงานกับลูกจ้างเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่ได้รับการช่วยเหลือ แต่ส่วนของผู้ประกอบการเองเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด อยากจะเรียกร้องให้มีนโยบายเยียวยาด้วย ส่วนคำสั่งจังหวัดฉบับที่แล้วก็ยังไม่มีกำหนดว่าจะให้เปิดร้านได้เมื่อไหร่เราจึงต้องการความชัดเจนว่าจะให้เปิดได้วันไหน คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ จ.ลำปาง จะกลับมาเป็นปกติได้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดให้เร็วขึ้น ผู้ประกอบการร้านอาหารยินดีปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งที่ผ่านมาก็ปฏิบัติตามกฎระเบียบมาโดยตลอด ขอความเห็นใจกับผู้ประกอบการด้วย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง ได้เข้ารับเรื่องและแจ้งให้ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและแผงลอย จ.ลำปาง ว่า จะรายงานให้ทางผู้ว่าราชการทราบโดยเร็ว เพราะคำสั่งจังหวัดต้องผ่านที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดลำปาง ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ส่วนเรื่องการเยียวยาผู้ประกอบการนั้น จะรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนส่งไปยัง ศบค.เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการช่วยเหลือในภาพรวมทั้งประเทศเพราะได้รับความเดือดร้อนเหมือนกันหมด โดยทางผู้ประกอบการได้เตรียมเอกสารต่างๆ ยื่นเป็นหลักฐานแสดงถึงผลกระทบที่ได้รับความเดือดร้อนจริง ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: