X

ลำปางเปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยโรคโควิด- 19 ทั้ง 3 ราย   


เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้แจ้งสถานการณ์โรคโควิด- 19
จังหวัดลำปาง ซึ่งก่อนหน้านี้จังหวัดลำปางไม่มีรายงานผู้ป่วยติดต่อกัน 30 วัน อย่างไรก็ตามได้มีการเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัดลำปางซึ่งมีโอกาสที่จะติดเชื้อมาจากจังหวัดอื่น ทำให้ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อ
โควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำปาง และโรงพยาบาลเวชชารักษ์-เกาะคา โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผู้ป่วยรายที่ 1 เพศชาย อายุ 24 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำปางได้เดินทางไปกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เพื่อไปศึกษาดูงานธุรกิจขายเนื้อวัวที่ร้าน Sun Beef จังหวัดนนทบุรี พร้อมกับ ผู้ป่วยรายที่ 2 เพศชาย อายุ 26 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี และเดินทางกลับมาที่จังหวัดลำปางพร้อมกัน ในวันที่ 22 มิถุนายน 2564 จนกระทั่ง วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ทั้ง 2 รายทราบว่าเจ้าของร้าน Sun Beef ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เดินทางมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลลำปาง ในวันที่ 26มิถุนายน 2564 และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อในวันที่ 27 มิถุนายน 2564 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลำปางผู้ป่วยรายที่ 3 เพศหญิง อายุ 52 ปี ภูมิลำเนาจังหวัดเชียงราย ทำงานในแคมปัคนงานก่อสร้างในกรุงเทพมหานครกับสามีชาวลำปาง ผู้ป่วยมีแผนเดินทางกลับจังหวัดลำปางพร้อมสามี ในวันที่ 27 มิถุนายน 2564 ก่อนหน้านี้ผู้ป่วยไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ตั้งแต่วันที่ 25มิถุนายน 2564 ยังไม่ทราบผลการตรวจ ระหว่างการเดินทาง โรงพยาบาลแจ้งผลการตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19เมื่อถึงจังหวัดลำปางจึงไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชชารักษ์-เกาะคา
ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคได้ทำการติดตามเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยแล้ว ซึ่งทั้งหมดได้กักแยกตัวเองที่บ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน

เนื่องจากก่อนหน้านี้จังหวัดลำปางไม่มีรายงานผู้ป่วยติดต่อกัน 30 วัน ผู้ป่วยใหม่ทั้ง 3 รายเดินทาง
มาจากพื้นที่เสี่ยงสูงทั้งสิ้น จังหวัดลำปางจึงขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการการเดินทางเข้าจังหวัด
ลำปางอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. ลงทะเบียนเข้าพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยสแกน QR code “ลำปางชนะ” (กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ถูกต้อง)
ศูนย์ข้อมูล COVID-19 จังหวัดลำปาง
2. ให้รายงานตัวต่อ อสม. / ผู้นำชุมชน / จนท.สาธารณสุข ในพื้นที่ ของทุกหมู่บ้าน/ชุมชน โดย
ไม่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ในการเดินทาง เพื่อพิจารณาประเมินความเสี่ยง ทั้งนี้กรณีมาจากกรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล (จังหวัดครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดสมุทรสาคร)และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา ให้กักตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และหากมีภารกิจจำเป็นต้องออกจากบ้าน/ที่พักอาศัย ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคทุกครั้งกรณีที่ท่านทราบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 แล้ว เมื่อเดินทางเข้ามายังจังหวัดลำปาง ขอให้ติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาทันทีโดยไม่หยุดแวะที่ใด หรือ แจ้งผ่านสายด่วนโควิด-19 จังหวัดลำปาง โทร 093 1408023 โดยไม่ปกปิดไทม์ไลน์ข้อมูลการเดินทาง เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 นี้ ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการเดินทางเข้าไปในสถานที่เสี่ยงมีความแออัดและไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย ได้แก่ สถานบันเทิง บ่อนการพนัน จังหวัดลำปางจึงขอความร่วมมือให้พี่น้องชาวลำปางปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย (DMHT) อย่างเคร่งครัด คือD : Social Distancing เว้นระยะห่างไม่ไปในที่แออัดM : Mask Wearing สวมหน้ากากอนามัย/ผ้า ตลอดเวลาH : Hand Washing การล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ และT : Tracking เช็คอินทุกสถานที่ ที่เข้าไปด้วยการสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะ
25 มิ.ย.64

ผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 3เพศหญิง อายุ 52 ปี ภูมิลำเนา อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย
ประวัติการเดินทางย้อนหลัง 12 – 24 มิ.ย. 64พักอยู่ที่แคมป์คนงานกับสามี ไม่ได้ออกจากที่พัก(แคมป์ก่อสร้าง ช.การช่าง กิจการร่วมค้า)เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเพชรเวชโดยรถยนต์ส่วนตัว โรงพยาบาลให้มาตรวจวันที่ 28 มิ.ย. 64
เดินทางไป โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ เพื่อขอตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่ได้ตรวจเนื่องจากคิวตรวจเต็ม โรงพยาบาลนัดให้มาตรวจ เวลา 24.00 น.กลับไปทำงานที่แคมปีก่อสร้างทั้งวันกับสามีมาตรวจหาเชื้อโควิด- 19 ตามนัดที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ทำงานที่สำนักงานแคมป์ก่อสร้างรถไฟใต้ดินสีส้มและพักอยู่ที่แคมป์คนงาน ไม่ได้ออกจากที่พักอยู่ที่แคมป์คนงานกับสามีออกเดินทางจากที่พักคนงานกลับมา จ.ลำปาง เนื่องจากสามีเป็นคนลำปางถึง จ.กำแพงเพชร โรงพยาบาลเกษมราษฎร์โทรแจ้งผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากทราบผลตรวจ จึงให้ลูกสาวประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการรักษา ระหว่างทางไม่ได้แวะที่ใดเดินทางถึง โรงพยาบาลเกาะคา และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเวชชารักษ์-เกาะคา

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน