เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน สภ.ห้างฉัตร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยห้างฉัตร พร้อมกำลังเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 100/1 บ้านปางม่วง หมู่ที่ 9 ต.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ภายหลังจากได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุผู้เป็นพ่อ ได้ขังลูกสาวอายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 และลูกชาย อายุ 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล ไว้หน้ารถ โดยได้ติดเครื่องยนต์เอาไว้ และล็อคประตูรถไว้ทั้งสองข้าง ส่วนผู้ที่ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอนุพงษ์ แก้วคำกอง หรือต้น อายุ 28 ปี
ข่าวน่าสนใจ:
ในที่เกิดเหตุได้ได้มีพ่อ และแม่ ของนายต้น ได้พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ลูกชาย ได้ยอมเปิดประตูรถเพื่อให้หลานทั้งสองคนได้ลงจากรถ ซึ่งทั้งสองคนยังไม่ได้กินอาหารเช้า นางไพริน จึงได้ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ชาม ยื่นให้หลานได้กิน จนเวลาผ่านไปนานจนถึงเวลา 11.30น. นายต้นได้ขับรถบรรทุกหกล้อสีน้ำเงิน ออกจากบ้านพร้อมลูกๆ ของตนเอง ไปยังสวน ของตนเอง ที่อยู่ทางเข้าของหมู่บ้าน ห่างไปประมาณ 500 เมตร ได้ดับเครื่องยนต์ เลื่อนกระจกประตูรถลงข้างละประมาณหนึ่งคืบ เพื่อระบายอากาศซึ่งอาหารค่อนข้างร้อน โดยยังไม่ยอมลงจากรถแต่อย่างใด
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ก็ยังตรึงกำลังเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น โดยทางครอบครัวจะขอพูดจาเกลี้ยกล่อมลูกชายด้วยตนเอง เนื่องจากลูกชายค่อนข้างเครียด และไม่ได้มีอาวุธที่จะทำร้ายลูกๆ แต่อย่างใด
นางไพริน ซึ่งเป็นแม่ของนายต้น เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยทำในลักษณะนี้ อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้าน รวมทั้งสามีตนเอง ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานอีกสองคน ช่วงเช้าตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 ของวันนี้ ลูกชายได้นำตัวหลานสาว และหลานชาย ขึ้นรถบรรทุก จอดติดเครื่องอยู่ภายในลานหน้าบ้าน โดยไม่ยอมให้เปิดประตูให้ใครลงจากรถ ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจาดความเครียดที่ภรรยา ของลูกชายไม่ยอมกลับบ้าน โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00น. ได้ขี่จยย.พาลูกไปส่งที่โรงเรียน และได้หายตัวไปไม่ยอมกลับบ้าน และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้เลย ลูกชายจึงได้ขับรถบรรทุกหกล้อพร้อมลูกทั้งสองคน ตามไปหาที่บ้านภรรยา ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ต.ห้างฉัตร ห่างไปประมาณ 15 กม.แต่ไม่พบตัว จึงเดินทางกลับ เกิดความเครียด ได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ภรรยาได้กลับบ้าน
นางไพริน ได้โทรศัพท์หานายต้น ได้พยายามพูดคุยให้ลูกชาย ที่ยังขังตัวเองและลูกๆไว้ในรถ ซึ่งได้ขับไปจอดไว้ที่สวน โดยการสนนา ให้ลูกชายได้ใจเย็นๆ ให้กลับเข้าบ้านมาพูคุยกันก่อน นายต้นตอบกลับว่า ภรรยายังไม่เข้าบ้านตนเองก็จะยังไม่กลับบ้านเช่นกัน ซึ่งผู้เป็นแม่ก็พยายามพูดจาให้กลับเข้าบ้าน ให้สงสารลูกๆ แต่นายต้นตอบกลับว่า จะไปตามหาภรรยาที่บ้านเดิมของภรรยาอีกครั้ง แต่ผู้เป็นแม่ยังพูดจาขอร้องให้ลูกชาย กลับมาพูดคุยหาทางออก และยอมที่จะยกมือไหว้ลูกชาย ความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะยังอยู่ในพื้นที่ เพื่อรายงานไป…..
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: