นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง และ นพ.พงษ์ศักดิ์ โสภณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปาง ร่วมนำทีมผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข ประจำเขตพื้นที่จังหวัดลำปาง ให้การต้อนรับ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารจากส่วนกลาง เนื่องในโอกาสเดินทางลงพื้นที่ร่วมเป็นเกียรติในการเปิดศูนย์รักษาพยาบาล “ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินอัจฉริยะและหอผู้ป่วยวิกฤต อาคารนวมินทรราชประชาภักดี” ของโรงพยาบาลลำปาง ซึ่ง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้เกียรติเป็นประธานทำพิธีตัดริบบิ้น เปิดศูนย์รักษาพยาบาล “ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินอัจฉริยะและหอผู้ป่วยวิกฤต” โรงพยาบาลลำปางอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ด้วยโรงพยาบาลลำปางได้ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉิน และผู้ป่วยวิกฤตที่จำเป็นจะต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วทันเวลา รวมถึงในเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการรองรับโรคอุบัติใหม่และโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทางโรงพยาบาลลำปางได้มีการปรับกระบวนการทำงานด้วยหลัก EMS ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในด้าน Environment ดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้มีความเหมาะสมเกิดการผ่อนคลาย / ด้าน Modernizations ดำเนินการปรับองค์กรให้มีความทันสมัย มีความปลอดภัย และด้านSmart service ได้ดำเนินการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมในรูปแบบดิจิทัล เข้ามาร่วมในการให้บริการประชาชน เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาลเกิดความคล่องตัว รวดเร็ว สามารถลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดการรอคอย ลดภาระงานของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพสร้างความเชื่อมั่นและปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชนผู้ใช้บริการ
โดยสำหรับ “ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินอัจฉริยะและหอผู้ป่วยวิกฤต” ทางโรงพยาบาลลำปาง ได้มีการปรับระบบการทำงานให้อยูในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้พร้อมบริการแก่ผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยหนักอย่างครบวงจร มีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย มีการจัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ด้วยระบบดิจิทัล พร้อมสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการบริหารจัดการเพื่อบริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งภายในห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินและหอผู้ป่วยวิกฤตแห่งนี้ จะมีระบการทำงานอัจฉริยะในหลายๆ ส่วน อาทิเช่น การบันทึกข้อมูลจากเครื่องติดตามการทำงานของสัญญาณชีพจรในระบบ Smart ER / การพัฒนาการให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตด้วยระบบ Digital Transformation ที่จะมีการส่งต่อข้อมูลสัญญาณชีพผ่านทาง Air box เชื่อมต่อเครื่องมือทางการแพทย์ในการวินิจฉัยอาการ วิธีการรักษาและช่วยชีวิตเบื้องต้น โดยไม่ต้องมีการบันทึกข้อมูลลงในกระดาษ ซึ่งจะสามารถลดความซ้ำซ้อนในขั้นตอนต่างๆ แต่จะมีข้อมูลของผู้ป่วยส่งถึงมือแพทย์-พยาบาลอย่างละเอียด ทำให้การรักษาผู้ป่วยเกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ข่าวน่าสนใจ:
- 'ในหลวง'..พระราชทานดินฝังศพ 'จ่าการข่าว' ฉก.ทพ.48
- มทบ.210 ร่วมกับ อบต.โพธิ์ตาก ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางพร้อมมอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภคบริโภค
- “นางนกต่อ” ลวงหนุ่ม 17 รุมกระทืบกลางดึก บังคับกราบเท้า อัดคลิปโชว์อำนาจ
- ลำปางมือมืดกรีดป้ายหาเสียง "ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร" ผู้สมัคร นายก อบจ.ลำปาง เบอร์ 2
โดยปัจจุบัน ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินอัจฉริยะและหอผู้ป่วยวิกฤต อาคารนวมินทรราชประชาภักดี โรงพยาบาลลำปาง ได้มีพัฒนาขยายระบบการรักษาพยาบาลให้มีความพร้อม มีปรับปรุงหอผู้ป่วยหนักรองรับผู้ป่วยจำนวน 34 เตียง ประกอบด้วย ห้อง ICU อุบัติเหตุ 14 เตียง / ห้อง ICU ศัลยกรรมประสาท 10 เตียง และห้อง ICU ทั่วไปอีก 10 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยวิกฤตที่มีภาวะล้มเหลวของอวัยวะสำคัญหลายระบบ นอกจากนี้ยังมีการจัดทำห้องความดันลบ 3 ห้อง สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19 และโรคอุบัติใหม่ / โรคระบบทางเดินหายใจ โดยขณะเดียวกันหอผู้ป่วยหนัก จำนวน 34 เตียง ยังสามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องความดันลบได้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: