ที่ อาคารหอประชุมที่ว่าการอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง นายชนาธิป เสมแย้ม ปลัดจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมสัมมนาสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสัตว์ “โรคลัมปี สกิน หรือ LSD” ที่ได้เกิดการระบาดขึ้นในเขตท้องที่จังหวัดลำปาง เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม จนถึงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีน.สพ.ศร ธีปฏิมากร ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายปิตุพงศ์ เทพวีระพงศ์ ปลัดอาวุโสอำเภอห้างฉัตร และ น.ส.อุไรวรรณ แก้วมูลคำ หัวหน้าฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ร่วมนำทีมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในสังกัดหน่วยงาน ร่วมสัมมนา
ทั้งนี้เป็นการสรุปผลการดำเนินงานในภาพรวม ทั้งในด้านการติดตามโรค เฝ้าระวังป้องกัน และการช่วยเหลือเยียวยาแก่กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด และร่วมเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น จากตัวแทนกลุ่มพี่น้องเกษตรกรในจังหวัดลำปางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน เพื่อเป็นแนวทางที่จะได้นำไปปรับปรุงจัดเตรียมมาตรการความพร้อมในการเฝ้าระวังป้องกันโรคในปีต่อๆ ไปให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
โดยสำหรับจังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค “โรคลัมปี สกิน” ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลำปาง ได้มีการตรวจสอบพบการแพร่ระบาดของโรคครั้งแรก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ในเขตท้องที่อำเภอห้างฉัตร และโรคได้มีการแพร่กระจายออกไปตามชุมชนต่างๆ
ทั้งในเขตอำเภอเมืองลำปาง เสริมงาม และอำเภอแม่ทะ ตามลำดับ ซึ่งในช่วงสถานการณ์การระบาด ทางจังหวัดลำปางได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโรคระบาดในสัตว์ ชนิดโรคลัมปี สกิน และได้ประกาศให้ในแต่ละอำเภอดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (โรคระบาดในสัตว์) ลัมปี สกิน พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเฝ้าระวังติดตาม รณรงค์ป้องกันโรคทั้งในเรื่องของการกำจัดแมลงดูดเลือดที่เป็นพาหะหลักที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาด รวมถึงเข้มงวดควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยง และแจ้งเกษตรกรผู้เลี้ยงให้หมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง อย่างไรก็ตามจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสัตว์ “โรคลัมปี สกิน” ได้ส่งผลทำให้สัตว์เลี้ยง โค-กระบือ ของเกษตรกรล้มตายไปเป็นจำนวนมาก โดยจังหวัดลำปางมีเกษตรกรกว่า 177 ราย ใน 4 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น อำเภอห้างฉัตร เกษตรกร 85 ราย ได้รับความเสียหายมีโคป่วยตาย 95 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,916,000 บาท / อำเภอเมืองลำปาง เกษตรกรได้รับความเสียหาย 40 ราย มีโคป่วยล้มตาย 47 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 815,000 บาท / อำเภอเสริมงาม มีเกษตรกร 25 ราย ได้รับความเสียหาย มีโคป่วยตาย 25 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 537,000 บาท และอำเภอแม่ทะ มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 27 ราย โคป่วยตาย 31 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 895,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 4,163,000 บาท
โดยในส่วนความเสียหารที่เกิดขึ้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาแก่เกษตรกร ที่มีโค-กระบือล้มตายด้วยโรคลัมปี สกิน (LSD) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 โดยได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอและระดับจังหวัด พร้อมทั้งได้ทำการรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง นำส่งศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ เพื่อเสนอปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาให้ความช่วยเหลือจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ จนได้รับการอนุมัติวงเงินช่วยเหลือตามจำนวนทั้งหมด ซึ่งในโอกาสนี้ นายชนาธิป เสมแย้ม ปลัดจังหวัดลำปาง ได้เป็นผู้แทนนำเงินช่วยเหลือเยียวยาจำนวนดังกล่าว มอบแก่ตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบในเขตท้องที่ทั้ง 177 ราย พร้อมได้กล่าวขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด อย่าตระหนกและหมั่นคอยสังเกตุอาการของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ หากพบสัตว์แสดงอาการป่วย หรือ ตายผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ อาสาปศุสัตว์ หน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อจะได้มีการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือแก่เกษตรกรได้อย่างทันท่วงที
